เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สธ. ยัน ไทยยังไม่มีคนติดเชื้อ "โอไมครอน" จากการเป็นผู้สัมผัส


11 ธ.ค. 2564, 16:12



สธ. ยัน ไทยยังไม่มีคนติดเชื้อ "โอไมครอน" จากการเป็นผู้สัมผัส




เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอนในประเทศไทย ว่า ไทยมีผู้ติดเชื้อโอไมครอนยืนยัน 3 ราย โดยรายแรกคือ ชายชาวอเมริกัน เดินทางมาจากประเทศสเปน รายที่ 2 และ 3 เป็นหญิงไทย เดินทางกลับมาจากประเทศไนจีเรีย ส่วนรายที่ 4 เป็นชายไทย เดินทางกลับมาจากประเทศ ดีอาร์คองโก อยู่ในระหว่างการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยช่วงเช้าของวันที่ 11 ธ.ค. ผลยังไม่ออก แต่มีแนวโน้มเป็นไปได้สูง



จากการติดตามดูตัวเลขผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มียอดประมาณ 3,000 กว่าคน โดยประเทศแอฟริกาใต้ มีตัวเลขสูงสุด รองลงมาคือ อังกฤษ เยอรมัน สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรแล้วไม่ถึง 1% ดังนั้นหากดูแต่ยอดตัวเลขเพียงอย่างเดียว ซึ่งเพิ่มขึ้นสูง ทำให้เกิดความกังวล แต่หากดูรายละเอียด จะเห็นว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก ผู้สัมผัสก็ไม่มีใครติดเชื้อสักราย สำหรับไทย ก็ยังไม่พบผู้สัมผัสติดเชื้อเช่นกัน

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของทั่วโลกยังเป็นสายพันธุ์เดลต้า ส่วนสายพันธุ์โอไมครอนจะมาแทนที่ เดลต้าหรือไม่นั้น ต้องจับตาดูกันต่อไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกก็กำลังจับตามอง และแนะนำด้วยว่า เรากังวลกับสายพันธุ์นี้ได้ แต่ไม่ควรตกใจมากเกินไป


สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ผู้เสียชีวิตขึ้นลง 30-50 คน คาดว่า ค่าเฉลี่ยจะลงมาเรื่อยๆ เรายังพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มงานบุญ งานประเพณี สถานประกอบการ แต่ไม่ใช่กลุ่มก้อนใหญ่ ซึ่งก็ต้องคอยเตือนให้ระวังตัว ไม่ให้วางใจเกินไป ภาพรวมตั้งแต่หลังลอยกระทง ไม่พบกลุ่มก้อนที่เกี่ยวเนื่องกัน ถือว่าเป็นความสำเร็จและเป็นความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตนเองในการออกมาร่วมงาน ส่วนกลุ่มตลาด ก็ยังพบ เพราะเป็นสถานที่ที่มีคนหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้ดูเหมือนว่าผู้ป่วยจากตลาด ยังพบได้อยู่ ส่วนตัวตน เห็นว่า ทำได้ขนาดนี้ก็น่าพอใจ ขอให้ยกการ์ดสูงต่อเนื่องกันไป






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.