ประธานกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานของรัฐมายาวนาน
14 ธ.ค. 2564, 13:08
เมื่อที่ 13 ธ.ค. 64 ที่ห้องประชุมข้าวสารหอม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทาง มาประชุมติดตาม การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน เรียน และที่อยู่อาศัย ที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานราชการ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์พร้อมด้วยปลัดจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน - ห้วยสำราญ นายอำภอเมืองสุรินทร์ นายอำเภอกาบเชิง ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอปราสาท เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 25 สุรินทร์ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.เขต1 พรรคภูมิใจไทย นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.เขต 3นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส.เขต 6 นายชูศักดิ์ แอกทอง เขต 7 พรรคเพื่อไทย ประชาชน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 20 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยประชาชนได้รับผลกระทบในที่ทำกินกับหน่วยงานของรัฐ เข้าร่วมประชุม กับคณะกรรมาธิการเรื่อง ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์
โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ชี้แจงปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยในภาพรวมของจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทกรณีมณฑลทหารบกที่ 25 ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหา และ ธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ คัดค้านการขอออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินตามหลักฐาน น.ส. 3 และฟ้องขับไล่ราษฎร ออกจากที่อยู่อาศัยในพื้นที่หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 20 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ ชี้แจงความคืบหน้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน - ห้วยสำราญ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอปราสาท รายงานความความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาโครงการขยายเขตไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ หน่วยงานอื่นๆ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกรรมาธิการมีข้อสงสัยและซักถาม
นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2564 ณ ศาลาวัดจำป่าสะเอิง หมู่ 5 ตำบลโพนครก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ และวันที่ 12 ธ.ค.64 ที่บ้านโพนม่วง ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดสัมมนา เรื่อง "การสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดำเนินการของภาครัฐ ในการบริหารจัดการน้ำ และการขยายเขตไฟฟ้าให้กับประชาชน ภาคการเกษตร และการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร มีประชาชนเข้ารวมงาน แห่ง 320 คน โดยการจัดสัมมนาดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด การมีจุดตรวจคัดกรองคณะผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมสัมมนา การให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างที่นั่ง การมีจุดบริการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เป็นต้น
หลังจากประชุมที่ห้องประชุมข้าวสารหอม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฏร ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฏร ได้มาติดตามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยที่ทำกิน ที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหา และเชื่อว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะชาวอำเภอกาบเชิง ทางจังหวัดยืนยันว่า จะให้ประชาชนได้เอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องโดยเร็วและตนเองก็จะหาโอกาสมาพบปะกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกครั้งเพื่อดูแลสิ่งที่ยังขาดตกบกพร่อง ให้พี่น้องทั้งหลายคลายความยุงยาก
ด้านนายสุนทร ปรุงเกียรติ ตัวแทนของประชาชน หมู่ 1 หมู่ 7 และหมู่ 20 ที่ได้รับผลกระทบจากการที่มณฑลทหารบกที่ 25 คัดค้านการออกเอกสารสิทธิ์ ในที่ดินที่อยู่อาศัย ซึ่งมีปัญหาต่อเนื่องกันมายาวนาน กว่า 30 ปี หลังจากได้ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นกับคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฏร แล้ว นายสุนทร ปรุงเกียรติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หมู่บ้านของเรา เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งชาวบ้านได้อาศัยที่ดินอยู่กันมานานมากแล้ว และมณฑลทหารบกที่ 25 หรือก่อนนั้นเรียกว่าจังหวัดทหารบกได้มาเว้นที่ดินของชาวบ้านซึ่งก็เป็นที่ดินเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาบอกว่า เขาดูแลที่ดินทั้งหมด 8,000 ไร่ซึ่งมันก็จะทบกับที่ดินที่อยู่อาศัยดั่งเดิมในขณะนี้ ถึงตอนนี้ยังคุยกันไม่ลงตัว ซึ่งชาวบ้านได้ขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่างๆยื่นฎีกา ยื่นคัดค้านมาโดยตลอด และก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง อยากได้ความเป็นธรรม มีที่อยู่ที่กิน ที่อาศัย สู้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า มีการใช้กำลังกันก็มีมาแล้ว ปัญหามีมาอย่างยาวนาน ชาวบ้านก็คือลูกหลาน คนไทยด้วยกันอย่างน้อยน่าจะมีการตรวจสอบร่วมกันหาข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาอยู่ก่อนเขาควรจะได้รับสิทธิ์ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวมารับฟังตรวจสอบเอกสารที่ชาวบ้านมี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน แก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างถูกต้องเที่ยงธรรมต่อไป