เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 จากกรณีที่ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองโรคระบาด เปิดเผยว่า พบการระบาดในประเทศเป็นรายแรก โดยเป็นคู่สามีภรรยา สามีเป็นนักบินสัญชาติโคลัมเบีย

โดยได้เปิดเผยรายละเอียดว่า ชายรายดังกล่าว ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว 2 เข็ม มีประวัติโรคเบาหวาน โดยวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เดินทางจากไนจีเรียเข้าไทย ผ่านระบบ sandbox ที่ กทม. ผลตรวจเบื้องต้น RT-PCR ไม่พบการติดเชื้อ หลังจากนั้น ก็อยู่ในระบบ sandbox ที่สามารถเดินทางออกนอกโรงแรมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับ

ประวัติเดินทาง เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปตรวจตาที่ รพ.แห่งหนึ่ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และไม่พบเจอผู้อื่น มีประวัติไปซื้อของร้านค้าใกล้โรงแรม ทานข้าวเที่ยงที่ห้าง โดยสวมหน้าตลอดเวลา

30 พฤศจิกายน อยู่ในโรงแรม
1 ธันวาคม เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากนั้น เริ่มมีไข้ตัวร้อน จึงตรวจ ATK  ผลเป็นลบ
2 ธันวาคม จึงไปพบแพทย์ที่ รพ.อีกครั้ง โดยผลตรวจไวรัสอื่นให้ผลลบทั้งหมด ผลเอกซเรย์ปอดปกติ  และเมื่ออยู่ในระบบแซนด์บ็อกซ์ ครบ 7 วันตามโปรแกรมของการกักตัวที่โรงแรม หลังจากนั้น ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวก็กลับบ้านที่ จ.ปทุมธานี อยู่กับภรรยา
4 ธันวาคม เริ่มมีอาการไข้ ไอเจ็บคอ อ่อนเพลียมากขึ้น ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบอยู่
7 ธันวาคม อาการเริ่มเหนื่อยมากขึ้นแต่ยังมีสติ เดินทางได้ จึงไป รพ.ที่ไปฉีดวัคซีน ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก ทำให้ภรรยาที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็อยู่กักตัวที่บ้าน
10 ธันวาคม ภรรยายไปตรวจ RT-PCR เป็นบวก วันเดียวกันนั้น ผลของสามีออกมาว่าเป็นโอไมครอน จึงมีการตรวจหาโอไมครอนในภรรยาด้วย หลังจากนั้น พบว่าเป็นโอไมครอนเช่นเดียวกัน และมีการยืนยันว่าเป็นโอไมครอนทั้งคู่

ดังนั้น ภรรยารายนี้น่าจะเป็นคนแรกของเมืองไทย ที่ติดเชื้อจากสามีที่เดินทางจากต่างประเทศ และเป็นการติดเชื้อโอไมครอนในประเทศรายแรก ส่วนผู้สัมผัสบนเครื่องบินของสามีไม่มี เนื่องจากนั่งห่างกันตามมาตรการ

อย่างไรก็ตาม ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของภรรยารายนี้คือ คนขับแท็กซี่ไปส่งรพ. การตรวจ RT-PCR ให้ผลลบ และอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และตรวจยืนยันครั้งที่ 2 คาดว่าผลออกพรุ่งนี้ เบื้องต้น อาการของสามีขณะที่อยู่รพ. มีอาการเชื้อลงปอด อาการหนักขึ้น แต่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ทั้งนี้ ล่าสุด อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนภรรยา ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็มแล้ว และไม่มีอาการรุนแรงอะไร