จนท. เร่งตามหา "ช้างป่า" ถูกรถกระบะชนบาดเจ็บ แต่กลับโดนวิ่งพุ่งเข้าใส่หยุดไม่อยู่
10 ม.ค. 2565, 09:08
วันนี้ 9 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ลงพื้นที่เดินเท้าจากถนนใหญ่ที่เกิดเหตุเข้าป่าทึกขึ้นเขาเข้าไปประมาณกว่า 1 กม. เพื่อไปดูอาการของช้างป่าตัวที่ถูกรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สี่ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 กย 7763 กรุงเทพฯ ที่บริเวณถนนสาย 3199 บ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ชนได้รับบาดเจ็บ ทั้งช้างป่า และผู้ที่โดยสารไปกับรถกระบะดังกล่าว
โดยขณะที่ทีมเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่เขตสลักพระ และสื่อมวลชน ประมากว่า 20 ชีวิต ได้เดินเข้าไปค้นหาเดินเข้าไปได้ประมาณ 1 กม. ได้ยินเสียงช้างตัวดังกล่าวร้องเสียงคล้ายเด็ก แล้วทันใดสิ่งที่ไม่คาดคิดช้างตัวดังกล่าวได้หันพุ่งใส่ทีมที่เดินทางเพื่อเข้าไปช่วยรักษาจนทุกคนต้องวิ่งหนีกันกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ทันใดนั้นมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งสติได้ใช้อาวุธที่ถือไปด้วยยิงขึ้นฟ้าประมาณ 3 นัด เพื่อเป็นการหยุดให้ช้างวิ่งเข้าใส่ สุดท้ายช้างได้หยุดแล้วเดินลากขาหน้าที่เจ็บขึ้นไปด้านบนแล้วหยุดอยู่กับที่เนื่องจากอาการขาที่ได้รับบาดเจ็บ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้ร้องเรียกช้างตัวดังกล่าวว่าพี่ใหญ่ พวกเรามาช่วยรักษาอยู่นานพอสมควร แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้ เนื่องจากเกรงว่าช้างที่อยู่ในอาการเครียดจากการบาดเจ็บจะทำร้ายได้
หลังจากนั้น นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้มาร่วมวางแผนกับเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ เพื่อหาวิธีช่วยใหม่โดยได้ขอทีมโดรน มาบินเพื่อหาพิกัดว่าช้างตัวนี้อยู่บริเวณใด เพื่อจะได้นำยาผสมกับผลไม้ไปวางตามจุดต่างๆ ให้ช้างได้กินเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากไม่สามารถใช้ยาสลบกับช้างตัวนี้ได้เกรงจะได้รับอันตรายกับช้างที่บาดเจ็บได้ และคาดว่าทีมโดรนจะมาถึงในช่วงเย็นนี้ หากเข้าปฏิบัติงานไม่ได้ก็ต้องรอช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายด้วย ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกมาจากป่าทึบเพื่อเตรียมอุปกรณ์เข้าไปอีกรอบหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคงจะต้องใช้เวลาหลายวันในการดูแลรักษาช้างตัวนี้
นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า จากการที่เราได้ติดตามช้างตัวดังกล่าวพบว่า ช้างอาจอยู่ในอาการเครียด จึงหันมาจะทำร้ายพวกเรา จึงมาวางแผนกันว่าจะนำยาที่ใช้รักษาไปวางไว้ใกล้บริเวณปหล่งน้ำซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ไปประมาณเกือบ 1 กม. เนื่องจากช้างตัวนี้ยังไม่ได้กินน้ำตั่งแต่เช้าหลังจากเกิดอุบัติเหตุ คาดว่าช้างตัวนี้น่าจะเดินเข้าไปกินน้ำที่อยู่บริเวณนี้ แต่อุปสรรค คือแหล่งน้ำตรงจุดนี้ยังมีช้างอีกกลุ่มหนึ่งมีอยู่หลายตัว แต่หากว่าช้างบาดเจ็บไปถึงคิดว่าจะต้องเกิดการทำร้ายกันขึ้นเนื่องจากเป็นช้างคนละกลุ่มกัน หากช้างบาดเจ็บไปถึงก่อนก็ดีไป ดังนั้นจึงต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 2 กลุ่ม ไปเฝ้าแหล่งน้ำดังกล่าว และอีกกลุ่มเฝ้าดูพฤติกรรมช้างอยู่ตรงจุดนี้ด้วยจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของช้างบาดเจ็บตัวนี้ และกำลังติดต่อประสานงานใช้โดรนมาบินอีกทางหนึ่งเพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่
นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ฝากไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังช้างป่า หรือสัตว์อื่นๆ เพราะเรามีป้ายติดเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเห็น รวมถึงประชาสัมพันธ์สื่ออื่นๆ ต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะเส้นทางจากกาญจนบุรี ไปอำเภอศรีสวัสดิ์ จะมีช้างข้ามถนนด้วย เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ ช่วยลดความเร็วด้วยเพื่อความปลอดภัย ส่วนการเอาผิดกับรถกระบะ หรือไม่ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง
สำหรับวันนี้เวลาใกล้ค่ำแล้วการช่วยเหลือจะประปัญหามาก เราต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเจ้าหน้าที่เป็นหลัก เพราะช้างบริเวณนี้มีมากเกือบ 100 ตัว ที่ออกมาก็มีเพียงไม่กี่ตัว จะข้ามบริเวณนี้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะช่วงน่าแล้งในฝั่งตรงข้ามจะมีอาหารพืชไร่อยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงแหล่งน้ำจากแม่น้ำแควใหญ่ ช้างป่าโขลงนี้ก็จะเดินข้ามถี่ขึ้น เพื่อหาอาหารกินหลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือน ผลผลิตจะออกมากช้างก็จะลงมากด้วย และช้างตัวนี้เกิดจากแรงกดดันจากชาวบ้านด้วยวิธีต่างๆ เขาเกิดอาการหงุดหงิดได้บ้าง ช้างอาจจะดื้อบ้างเป็นธรรมชาติเขา เป็นธรรมดา ดูอย่างที่เราเข้ามาช่วยเขายังจะทำร้ายเราโชคดีที่เราได้วางแผนไว้แล้วไม่เช่นนั้นอาจถูกช้างทำร้ายแน่นอน