"หนุ่มกะเหรี่ยง" ถูกเสือโคร่งรุมกัดบาดเจ็บสาหัส ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เผยรอดเพราะปีนหนีขึ้นกอไผ่
1 ก.พ. 2565, 13:33
จากกรณีนายหวาน ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง อายุ 46 ปี ถูกเสือโคร่งตะปบได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.ทองผาภูมิ ก่อนที่จะรีเฟอร์ส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลหลพลพยุหเสนา เนื่องจากมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า คณะแพทย์ผู้รักษาได้อนุญาตให้นายหวาน ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเนื่องจากอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยคณะแพทย์ได้นัดให้มาพบหมอเพื่อตรวจอาการอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 9 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ประสานไปหานางสาวศิ (นามสมมุติ)น้าสาวของนายหวาน พร้อมกับญาติที่ขับรถยนต์มารับนายหวานกลับบ้าน เพื่อสอบถามถึงอาการบาดเจ็บ และความเป็นมาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งนายหวาน ยินดีที่จะเล่าเหตุการณ์ให้สื่อมวลชนได้รับฟัง จึงได้มีการนัดหมายกันที่บริเวณหน้า"สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" หรือ "สุสานทหารสหประชาชาติ" หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ป่าช้าอังกฤษ” จากสภาพพบตามร่างกายของนายหวานมีผ้าก๊อซพันแผลหลายแห่ง เช่นบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างต้นขาซ้ายและขวา รวมทั้งลำคอ และตามลำตัว
ทั้งนี้ นายหวาน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกจากหมู่บ้านเพื่อไปดูควายที่เลี่ยงเอาไว้เพียงลำพังคนเดียว โดยตนได้นำสุนัขที่เลี่ยงเอาไว้จำนวน 3 ตัวไปด้วย ระหว่างเดินทางกลับบ้านปรากฎว่ามีเสือโคร่งจำนวน 2 ตัววิ่งไล่ตามหลังมา ตนจึงพยายามวิ่งหลบหนี แต่ระหว่างนั้นกลับมีเสือโคร่งไม่ทราบเพศตัวยาวประมาณ 8 ศอก อีก 1 ตัวยืนขวางทางอยู่ด้านหน้า
จากนั้นเสือตัวดังกล่าวได้กระโจนเข้าทำร้ายตนอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนได้พยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดทุกวิถีทางโดยตนใช้หมัดชกอย่างแรงจนทำให้กระดูกข้อมือหักช่วงเวลาที่ตนสู้กับเสือนั้นตนจำไม่ได้แค่คาดว่าประมาณ 30 นาที และถือว่าโชคดีที่เสือ 2 ตัวตัวที่วิ่งตามมาก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้ามาทำร้ายตน และตนสามารถฝืนใจวิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนกอไผ่ได้
ช่วงที่ตนหนีขึ้นไปอยู่บนกอไผ่เสือโคร่งตัวดังกล่าวได้แต่มอง ซึ่งตนได้พยายามร้องตะโกนขอให้เสือออกไปพร้อมกับใช้ท่อนไม้ไผ่ขว้างใส่เสือ จนกระทั่งเสือโคร่งเดินเข้าไปในป่า เมื่อมั่นใจว่าเสือไปแล้ว ตนจึงรีบลงจากกอไผ่แล้ววิ่งหนีสุดชีวิตเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านให้นำส่งโรงพยาบาล
สำหรับบาดแผลตามร่างกายมีรอยเขี้ยวเสือกัด จำนวน 20 แผล โดยเฉพาะที่ฝ่ามือทั้ง 2 ข้างถูกเสือกัดจนทะลุ รวมทั้งบริเวณลำคอและตามร่างกาย ส่วนปากถูกเสือกัดจนฟันหัก นอกจากนั้นเป็นบาดแผลของเล็บเสือ
สำหรับค่ารักษาทราบว่าต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาลทองผาภูมิประมาณ 8,000 กว่าบาท และโรงพยาบาลพหลฯอีกประมาณ 16,000 บาท เบื้องต้นทางกรมอุทยานฯได้มอบเงินช่วยเหลือมาแล้ว 10,000 บาท”นายหวาน เผย
ด้านนางสาวศิ (นามสมมุติ)เล่าว่าตนเป็นน้าสาวของนายหวานที่ถูกเสือโคร่งทำร้าย ที่ผ่านมาในพื้นที่ไม่เคยพบเสือโคร่งมาก่อน แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการยิงสู้รบกันตามแนวชายแดนที่ใกล้กับบ้านปิล๊อกคี่ ทำให้ทหารกะเหรี่ยงหนีร่นเข้ามาอาศัยอยู่ตามผืนป่าที่เป็นที่อยู่ของเสือโคร่ง จากการยิงที่ทำให้เกิดเสียงดังเสือโคร่งที่อาศัยอยู่ผืนป่าฝั่งประเทศเมียนมาจึงอพยพถิ่นฐานเข้ามาหากินที่ผืนป่าฝั่งไทย สิ่งที่ตนมั่นใจว่าเป็นเสือมาจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น เนื่องจากตนได้รับแจ้งจากญาติที่เป็นทหารกะเหรี่ยงอยู่ฝั่งเมียนมาว่า มีเสือโคร่งจำนวน 5 ตัวอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ฝั่งไทยได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว”