ผช.ป.ป.ช..ภาค9 นำ ป.ช.ช..7 จังหวัดภาคใต้ แถลงชี้มูลความผิดนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการ พบพัทลุงแชมป์ทุจริต
24 ก.พ. 2565, 15:34
วันที่ 24 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.นราธิวาส ถ.สุริยะประดิษฐ์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส นายสุชาติ กรวยทิตานนท์ ผช.เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9 ได้เป็นประธานนำ ผอ.สนง.ป.ป.ช. 7 จังหวัด แถลงผลการดำเนินงานของ สนง.ป.ป.ช.ในเขตพื้นที่ภาค 9 ในรอบปีงบประมาณ 2564 และ ปีงบประมาณ 2565 ไตรมาสที่ 1 ครั้งที่ 2 ด้านการปราบปรามการทุจริต โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. เรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด 11 เรื่อง และ 2.เรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาในกรณีทุจริตประพฤติมิชอบ 1 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการ ซึ่งพบว่าพื้นที่ จ.พัทลุง ป.ป.ช.พบการทุจริตมากที่สุด 4 คดี และสิ้นสุดคดีแล้ว 1 คดี รวมเป็น 5 คดี ซึ่งแต่ละคดี นายสุชาติ กรวยทิตานนท์ ผช.เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9 ให้ ผอ.สน.ป.ป.ช.แต่ละจังหวัดเป็นผู้แถลงผลงานในครั้งนี้
เรื่องที่ 1 นายธนะ อาษาวุธ ผอ. สนง.ป.ป.ช.จ.พัทลุง ได้แถลง 5 เรื่อง ผู้ถูกกล่าวหา คือ นายประดิษฐ์ จาริยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กรณีทำสัญญายืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในทางราชการ งบประมาณ 160,000 บาท โดยไม่มีโครงการอยู่จริง และไม่นำเงินคืนส่งคลัง เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมากและราชการได้รับความเสียหาย กล่าวคือ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2553 ผู้ถูกกล่าวหา ได้ทำสัญญายืมเงินจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก โดยอ้างว่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามโครงการลงนามถวายพระพรฯ ที่โรงพยาบาลศิริราช และศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 14มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2553 แต่ปรากฏว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อครบกำหนดการคืนเงิน ผู้ถูกกล่าวหาก็มิได้ชดใช้เงินยืมตามระเบียบฯ ต่อมาได้มีหนังสือท้วงถามให้ ผู้ถูกกล่าวหานำเงินคืนให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2545 และต่อมาในวันที่ 28 ธันวาคม 2544 สำนักการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 ได้ทำหนังสือแจ้งการตรวจสอบการเงินทั่วไปปีงบประมาณ 2553 ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ว่าให้ส่งใช้เงินยืมดังกล่าว โดยนายประดิษฐ์ ส่งใช้เงินยืม จำนวน 160,000 บาท ดังกล่าวในวันที่ 12 มิถุนายน 2555 ซึ่งล่วงเลยมาเป็นเวลากว่า 2 ปี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิด อยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
เรื่องที่ 2 นายประดิษฐ์ จาริยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ร่วมกับนางวรรณพ็ญ จาริยะ และนายอารี พรรณราย กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดที่เกี่ยวข้อง กรณีเป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสียในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก โดยวิธีพิเศษ งบประมาณ 7,342,195 บาท เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมากและราชการได้รับความเสียหาย พฤติการณ์ในการกระทำความผิด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 นายประดิษฐ์ได้ทำสัญญาซื้อขายวัสดุก่อสร้าง กับร้าน ส.สุวรรณวัสดุก่อสร้าง โดยมีชื่อนายอารี เป็นเจ้าของร้าน แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าร้านดังกล่าว นายอารี ไม่ได้เป็นเจ้าของร้านแต่อย่างใด เนื่องจากร้านดังกล่าวเป็นร้านของนายประดิษฐ์ และนางวรรณเพ็ญ ซึ่งเป็นบ้านที่นายประดิษฐ์และนางวรรณเพ็ญ พักอาศัยอยู่ด้วยกัน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมูลความผิด ได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งแล้วยัง ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
เรื่องที่ 3 นายประดิษฐ์ จาริยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ร่วมกับนางวรรณเพ็ญ จาริยะ และนางอนงรัตน์ หลับสะ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดที่เกี่ยวข้อง กรณีเป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสียในการจัดซื้อยางมะตอยสำเร็จรูป ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก จำนวน 500 ถุง เป็นเงิน 90,000 บาท เมื่อปี พ.ศ. 2554 เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมากและราชการได้รับความเสียหาย กล่าวคือ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2554 นายประดิษฐ์ ได้ทำบันทึกตกลงซื้อขายวัสดุก่อสร้าง (ยางมะตอย)สำเร็จรูป กับร้านอนงรัตน์วัสดุก่อสร้าง โดยมีชื่อนางอนงรัตน์ เป็นเจ้าของร้าน แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าร้านดังกล่าวนางอนงรัตน์ ไม่ได้เป็นเจ้าของร้านจริง เนื่องจากร้านเป็นบ้านนายประดิษฐ์และนางวรรณเพ็ญ พักอาศัยอยู่ด้วยกัน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติว่าการกระทำของนายประดิษฐ์ นางวรรณเพ็ญ และนางอนงรัตน์ มีมูลความผิดทางอาญา ทางอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งรับคำเนินคดีอาญาฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งแล้ว
เรื่องที่ 4 นายประดิษฐ์ จาริยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กรณีการจัดซื้อวัสดุป้องกันกำจัดยุงลาย เพื่อใช้ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก และวัสดุเพื่อใช้ในการป้องกันโรคในสัตว์เลี้ยง รวม ๔ โครงการ จำนวน 360,000 บาท อันมีลักษณะเป็นการแบ่งซื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และเรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง จำนวน 175,000 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนที่ผู้รับจ้างได้เข้าทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ในการจัดซื้อวัสดุดังกล่าวข้างตัน กรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว นายประดิษฐ์ จาริยะ มีมูลความผิดทางอาญาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมูลความผิด ได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา
เรื่องที่ 5 นายธนะ อาษาวุธ ผอ. สนง.ป.ป.ช.จ.พัทลุง ได้แถลงข่าวเรื่องสุดท้ายกรณีนายสุมล จริยานุกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ก็จรศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง สังกัดศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กับพวกรวม 5 คน ร่วมกันเรียกรับเงินจากลูกจ้าง ตำแหน่งพี่เลี้ยงเด็กพิการ คนครัว คนงาน นักการภารโรง ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อจ้างเป็นลูกจ้างศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุงในปีงบประมาณ พ.ศ 2557 และปีงบประมาณ พ.ศ.2558 พฤติการณ์ในการกระทำความผิดโดยสรุป 1. นายสุมล ได้เรียกรับเงินจากนางสาวพิกุลแก้ว เกื้อเม่ง จำนวน 10,000 บาท เพื่อจ้างนางสาวพิกุลแก้ว เกี๊อเม่ง เข้าทำงานเป็นลูกจ้างศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง ตำแหน่งคนงาน 2. นายสุมล ได้เรียกรับเงินจากนางศศินี ภูประดิษฐศิลป์ จำนวน 30,000 บาท เพื่อจ้างนางศศินี ภู่ประดิษฐศิลป์ เข้าทำงานเป็นลูกจ้างศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง ตำแหน่งพี่เลี้ยงเด็กพิการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ทั้งนี้ การขี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ซ. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
นอกจากนี้นายสุมล ได้ร่วมกับ นางยุพา หมื่นหนู นางสาวดวงใจ จริยานุกูล นางสาวชลธิชา รักษ์แก้ว และนายอมร วังช่วย เรียกรับเงินจากลูกจ้างชั่วคราวของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อจ้างเป็นลูกจ้างศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพัทลุง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 รายนางสายบัว ชูภักดี นางสาววราภรณ์ เอียดดำ นางปรีดา สยามพันธ์ นางสาวนิตทิสา ขำจีด นางสาวจิตรา จันทร์สังข์ นายสิทธิชัย ศรีขาว นางสาวปริชาติ บอเนียว นางสาวสิริลักษณ์ สาดคงนางสาวสร้อยประดับ ขำหวาน คนละ 30,000 บาท นางสาวพิกุลแก้ว เกื้อเม่ง จำนวน 20,000 บาทและนางเพ็ญพรรณ์ เรืองเล็ก จำนวน 10,000 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าการกระทำของนายสุมล มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การกระทำของนางยุพา หมื่นหนู นางสาวดวงใจ จริยานุกูล นางสาวชลธิชา รักษ์แก้ว และนายอมร วังช่วย มีมูลความผิดทางอาญา และนางยุพา หมื่นหนู มีมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เรื่องที่ 6 น.ส.สุดใจ ไข่เสน ผอ.สน.ป.ป.ช.จ.สงขลา ได้แถลงข่าวกรณีนายประจวบ ทองกลิ่น เมื่อครั้งดำรงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ส่วนตัวระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2560. จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2562 พร้อมทั้งเก็บกุญแจรถไว้กับตัวเอง โดยไม่มีการจัดทำบันทึกข้อมูลการใช้รถและไม่นำรถกลับมาจอดเก็บรักษาที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย โดยไม่ปรากฏว่ามีการจัดทำรายงานขออนุญาตพร้อมแสดงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องนำรถไปจอดยังสถานที่อื่น และตลอดช่วงเวลาดังกล่าวกองช่างและกองคลังได้มีบันทึกข้อความติดตามรถจากผู้ถูกกล่าวหามาโดยตลอด แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉยไม่ได้ดำเนินการตามที่ได้มีการทวงถามมีร่องรอยบุบและขีดข่วนรอบคัน ขาดโอกาสในใช้งานรถยนต์ส่วนกลางคันดังกล่าวเพื่อประโยชน์หรือกิจการอันเป็นส่วนรวม คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีอาญาต่อศาล และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว
เรื่องที่ 7 นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผอ.สน.ป.ป.ช.จ.ปัตตานี ได้แถลงว่า นายนิมะ เจะอาแว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ในฐานะกรรมการตรวจการจ้าง กับพวกรวม 1 คน ข้อกล่าวหาโดยสรุป ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีอนุมัติขยายเวลาก่อสร้างอาคารศูนย์ พัฒนาเด็กเล็ก หมู่ที่ ๑ บ้านกำปงบูดี ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ขององค์การบริหารส่วนตำบลแหลมโพธิ์ สัญญาจ้างเลขที่ 1/2559 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ให้แก่ผู้รับจ้างออกไปจำนวน 180 วัน
เรื่องที่ 8 นายราม วสุธรภิญโญ ผอ.สน.ป.ป.ช.จ.ตรัง ได้แถลงว่านายปกครอง สุวรรณโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกันตังใต้ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง และนายสมวงค์ ทองชู กระทำความผิดโดยสรุปกรณีเข้ามีส่วนได้เสียในโครงการวางท่อขยายเขตภูมิภาคภายในตำบล หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ทั้งนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
เรื่องที่ 9 นายราม วสุธรภิญโญ ผอ.สน.ป.ป.ช.จ.ตรัง ได้แถลงข่าว นายอำนวย พรหมคล้าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และนางสาวจิราพรรณ์ แสนพันตรี การกระทำความผิดโดยสรุป หักเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ประจำปีงบประมาณ 2555 และปี 2556 ของพนักงานส่วนตำบลลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลละมอ เพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง โดยนายอำนวย พรหมคล้าย มีมูลความผิดทางอาญา และนางสาวจิราพรรณ์ แสนพันตรี มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ
เรื่องที่ 10 นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สน.ป.ป.ช.จ.ยะลา ได้แถลงข่าวนายมะอูโซะ สาลัง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา กับพวก รวม 3 คน