วันที่ 2 มี.ค. 65 นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เปิดเผยถึงเรื่องประกันอุบัติเหตุที่แตงโมได้รับจากรายการซุปตาร์พาฟิน วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หลังจากเสียชีวิตและคนที่จะได้รับผลประโยชน์ คือน้องอีสเตอร์ ลูกสาวของกระติกว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าใครจะเป็นคนรับผลประโยชน์ และกำลังจะให้ทนายความตรวจสอบ โดยตอนนี้ลูกสาวกระติกเพิ่งอายุ 6 ขวบ แตงโมยังไม่ได้จดทะเบียนรับเป็นลูกบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น ผลประโยชน์หลังเสียชีวิตจึงควรต้องตกเป็นของทายาท หรือบุคคลในครอบครัว  

นางพนิดา กล่าวว่า เมื่อคืนกระติกพูดต่อหน้าแม่บอกว่า "ว่ายน้ำไม่เป็น" แต่มีคลิปออกมาเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลอย่างที่ทุกคนเห็นว่า ว่ายน้ำเก่งเป็นปลา แถมยังเอาลูกสาวขี่หลังไว้ด้วย จึงอยากให้สื่อช่วยชั่งน้ำหนักว่านี่คือการโกหกอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าสื่อมวลชน และยังไปเชื่อมโยงกับเรื่องประกันอุบัติเหตุที่แม่สงสัยว่าทำไมถึงเพิ่งมีการเปิดเผยว่ามีประกันตัวนี้ หลังจากแตงโมเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้แม่ไม่ทราบว่าแตงโมได้มอบอะไรให้ลูกกระติกบ้าง

ตอนที่แตงโมยังมีชีวิต ถ้าจะซื้อของอะไรที่มีราคาแพงให้ลูกกระติก จะต้องบอกแม่ก่อนทุกครั้ง ให้แม่เป็นคนไปซื้อ อย่างเปียโนราคา 3,000 บาท แม่ก็เป็นคนไปซื้อให้ตอนวันเกิดลูกกระติก แต่เรื่องประกันอุบัติเหตุนี้แม่ไม่รู้เลย จึงตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ว่า แตงโมเป็นคนทำประกันและเซ็นเอกสารเองจริง ส่วนรายละเอียดในกรมธรรม์ แตงโมอาจไม่ได้เป็นคนกรอก โดยมีกระติกเป็นผู้ดูแลจัดการให้ เพราะปกติแล้วแตงโมจะงานยุ่งมาก ขนาดจะโทรหาแม่ยังไม่ค่อยมีเวลาเลย

ส่วนเรื่องเมื่อคืนนี้ที่กระติกมาขอขมา แม่เปิดเผยว่า แม่โมโหมาก ที่นั่งเถียงเมื่อคืน ก็นิสัยไม่ดี อยู่บ้านหรือเวลาเจอกันก็ทำเป็นนอบน้อมอ่อนโยน พูดจากับแม่นอบน้อมมาก ไหว้ตลอด แต่พฤติกรรมนั่งเถียงและก้าวร้าวแบบนี้ไม่เคยเห็น เวลาไปร่วมงานหรือไปออกรายการด้วยกัน เขาก็จะนั่งอยู่ของเขา ไม่มีมาเจ๊าะแจ๊ะชวนคุยกับแม่ แม่คิดว่าพฤติกรรมแบบนี้อาจจะเป็นธาตุแท้ของเขา เพราะตำรวจก็บอกกับแม่แบบนั้นเหมือนกัน