ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางยินดี สังข์ทอง อายุ 67 ปี รองประธานกลุ่มข้าวเหนียวแก้วรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางกลุ่มทำข้าวเหนียวแก้วมานานถึง 11 ปีแล้ว และมียอดการจำหน่ายที่ดีมาโดยตลอด แต่จากสถานการณ์ราคาข้าวเหนียวที่แพงในช่วงนี้ ทำให้ทางกลุ่มได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากเดิมที่มีต้นทุนในการซื้อข้าวเหนียวแค่กิโลกรัมละ 24-25 บาท แต่ตอนนี้ได้ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 45 บาทแล้ว  ทำให้ต้องยอมปรับราคาขายข้าวเหนียวแก้ว จากกิโลกรัมละ 140 บาท เป็นกิโลกรัมละ 150 บาท

นอกจากนั้น ต้องไปต่อรองราคากับพ่อค้าแม่ค้า เพื่อขอให้รับสินค้าไปขายเหมือนเดิม เนื่องจากการปรับขึ้นราคา ได้ส่งผลกระทบกับผู้ซื้ออย่างมาก ประจวบกับสถานการณ์ราคายางพาราและปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำ จึงยิ่งทำให้ยอดขายข้าวเหนียวแก้วตกลง จากเดิมเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ที่เคยมีรายได้ถึง 334,000 บาท แต่หลังจากนี้คงลดลงอย่างแน่นอน วอนขอรัฐบาลให้ช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวเหนียวให้ต่ำลงกว่านี้ มิเช่นนั้นทางกลุ่มคงไปไม่รอดแน่ ซึ่งหากต้องปรับราคาข้าวเหนียวแก้วแพงขึ้นไปอีก ก็จะยิ่งทำให้ไม่มีคนซื้อ

 

 

สำหรับกลุ่มแม่บ้านข้าวเหนียวแก้วรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย เกิดจากการรวมตัวกันของแม่บ้าน หลังเสร็จจากอาชีพหลักคือ การกรีดยางพารา โดยมีการเตรียมวัตถุดิบและขั้นตอนวิธีการทำที่พิถีพิถัน ทำให้มีรสชาติหวานกรอบ หอม มัน อร่อย ตามสูตรโบราณ และสามารถเก็บได้นานถึง 2 เดือน ซึ่งจะมีการวางขายทั้งในตลาดทับเที่ยง ร้านของฝากเมืองตรัง และส่งไปขายตามต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต กระบี่ สงขลา พัทลุง กรุงเทพฯ รวมทั้งยังนิยมสั่งไปใช้ในงานบวช งานแต่ง งานศพ หรืองานมงคลต่าง ๆ