ยังคงคึกคัก ! บรรยากาศขาย "ปลาทู" หลังพบข่าวไมโครพลาสติกอยู่ในกระเพาะ
12 ก.ย. 2562, 09:28
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการจำหน่ายอาหารทะเลในตลาดสดเทศบาลนครตรัง หลังจากที่มีการเผยแพร่ผลการวิจัยของศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 3 จ.ตรัง เกี่ยวกับการพบไมโครพลาสติกในกระเพาะปลาทูไทย ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เฉลี่ยตัวละ 78 ชิ้น แต่พบว่าบรรยากาศทั่วไปของการจำหน่ายปลาทู และปลาชนิดต่างๆ ยังคงคึกคัก
โดยนายชวลิต นุ่มสวัสดิ์ อายุ 56 ปี พ่อค้าแผงจำหน่ายปลาทู กล่าวว่า ผลการวิจัยพบไมโครพลาสติกในกระเพาะปลาทูทะเลตรัง ไม่ใช่เรื่องแปลก และพบเป็นปกติอยู่แล้ว เนื่องจากปลาทู เป็นปลาขนาดเล็ก ปากเล็ก ทำให้ต้องกินโคลนตมที่มักมีของปนเปื้อน รวมทั้งยังกินตะไคร่น้ำ สาหร่ายทะเล เศษไม้ เศษขยะ จึงมักพบเศษขยะตกค้างภายในกระเพาะ ขณะที่ปลาตัวใหญ่จะกินลูกปลาตัวเล็กเป็นอาหาร จึงไม่ทำให้ประชาชนตื่นตกใจใดๆ และตนเองก็ยังขายปลาทูได้ตามปกติ ราคาปกติ ไม่กระทบใดๆ ขณะที่ลูกค้าที่มาซื้อปลาก็ไม่ได้บ่น หรือสอบถามอะไร โดยเฉพาะในส่วนของพุงปลา หรือกระเพาะปลาทู ก็จะมีลูกค้าประจำมารับไปทำไตปลาขายตามปกติ
ขณะที่นางนิตศัลลยา ซินมุข อายุ 52 ปี ลูกค้าชาวตรังที่มาซื้อปลาทู ก็กล่าวว่า หลังทราบข่าวเรื่องนี้ ก็ไม่ได้กลัว หรือตกใจอะไร เพราะปกติกินปลา ก็กินแต่เนื้อ ไม่ได้กินพุงปลา หรือเครื่องในปลาอยู่แล้ว อีกทั้งก่อนนำไปปรุง ก็มีการดึงออกจากท้องปลาอยู่แล้ว เหลือแต่เนื้อปลาส่วนที่เขาเอาไปทำไตปลา แม้จะเอาพุงปลาไปทำ แต่ก็มีการทำความสะอาดก่อน และเอาไปต้มให้สุกก่อนแกง จึงไม่น่ากลัวอะไร และหากมีขยะติดมาก็สามารถย่อยสลายได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ได้จากผลงานวิจัยชิ้นนี้คือ ทำให้ประชาชนตื่นตัวไม่ทิ้งขยะใดๆ ลงทะเล เพราะจะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หรือสัตว์ทะเลกินเข้าไปก็ตายได้
ส่วน ดร.สมพร วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญชาวตรัง กล่าวว่า ในอดีตปลาจะไม่มีปัญหาเรื่องขยะ แต่ขณะนี้มีขยะแปลกปลอม เป็นพลาสติกและอื่นๆ ลงไปในท้องทะเล ซึ่งเกิดจากความมักง่ายของคนเยอะมาก ก็ย่อมส่งผลต่อความรู้สึกของผู้บริโภค ทำให้เกิดความกลัว และจะกระทบต่อพฤติกรรมการกินของคน ดังนั้น ควรสร้างจิตสำนึกตั้งแต่เด็กว่า จะต้องมีพฤติกรรมอย่างไร ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนอื่นหรือสังคน