เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 28 เมษายน 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาราชการแทนป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.อปพร. หมู่ 8 ตำบลเกาะหลัก ร่วมกับ พันตำรวจเอก สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พันตำรวจโท ศักดา จำปาทอง รองผู้กำกับสืบสวน พันตำรวจโท ชุมพล บางจันทร์ทึก รองผู้กำกับปราบปราม สภ.เมืองประจวบ ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ตชด.146 และ ตม.ด่านสิงขร จัดเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนตามแผนสกัดกั้นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดน ภายหลังสืบทราบว่าจะมีบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน จนสามารถจับกุมได้จำนวน 15 คน แบ่งเป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน ขณะนั่งอัดแน่นอยู่ในท้ายรถยนต์กระบะ ยี่ห้อทาทา ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน ถฬ- 4530 กทม.โดยมีผ้าใบสีดำคลุมร่างเอาไว้ เพื่ออำพรางตบตาเจ้าหน้าที่ โดยสามารถจับได้บริเวณบนถนนสายรอง สายบ้านหนองแก-บ้านหนองขาม หมู่ 8 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ส่วนคนขับรถผู้นำพาได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป ตรวจสอบผู้ครอบครองรถ ชื่อ นายพงศกร ปัญญาสร้างสรรค์ อยู่บ้านเลขที่ 512 หมู่ 1 ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานต่างด้าวทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพว่าได้เดินทางมาจาก รัฐยะไข่ เนปิดอว์ และมัณฑะเลย์ ลักลอบข้ามแดนมายังฝั่งไทย เพื่อจะไปหางานทำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรสาคร โดยเสียเงินค้าจ้างให้ขบวนการผู้นำพาเข้าประเทศคนละ 18000-25000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้น พร้อมตรวจยึดรถยนต์เป็นของกลาง และแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ทั้ง 15 ราย ในข้อหาลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป