อัจฉริยะ ลุยยื่นดีเอสไอ ร้องคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ย้ำมีเรือสปีดโบ๊ท 2 ลำ
18 พ.ค. 2565, 12:12
วันที่ 18 พ.ค. 65 มีรายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เพื่อร้องขอให้ดีเอสไอ รับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา เป็นคดีพิเศษ พร้อมนำพยานหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดี 20 ชุดมามอบเพื่อประกอบการพิจารณา
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ดีเอสไอนัดสอบปากคำ พร้อมนำพยานหลักฐานสำคัญ 20 ชุด โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต พบว่ามีเรือสปีดโบ๊ต 2 ลำไปที่ท่าทรายริมแม่น้ำหลังเกิดเหตุ ซึ่งกระติก อิจศรินทร์ อดีตผู้จัดการของแตงโม และนางภนิดา แม่แตงโม ก็เคยพูดว่ามีเรือ 2 ลำ เชื่อว่าเรืออีกลำที่คล้ายรุ่นเดียวกันกับลำก่อเหตุนั้นยังอยู่ และตำรวจก็รู้ แต่แกล้งไม่เห็น ซึ่งคราบเลือดร่องรอยดีเอ็นเอของแตงโม อาจจะอยู่ที่เรืออีกลำก็ได้ แต่ตนไม่มีอำนาจตรวจสอบว่ามีเรือรุ่นนี้อยู่ในประเทศไทยกี่ลำ
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าแผลด้านในขาขวาบนศพ เกิดจากของมีคม ไม่ใช่ใบพัดเรือ และมีทรายในมือข้างเดียวที่ลักษณะคล้ายกับทรายบนท่าทรายดังกล่าว กับโคลนในปอดแตงโมที่ทำให้เชื่อว่าศพไม่ได้อยู่ที่จุดตกตามที่แถลงข่าวไป เพราะที่นั่นมีแต่ทราย ไม่มีโคลน และผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการที่โคลนอยู่ในปอด แสดงว่าไม่ได้เสียชีวิตในน้ำลึก แต่จุดพบศพเป็นน้ำลึก ซึ่งมีพยานชี้ชัดว่าจุดตกอยู่คนละฝั่ง
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ไม่แน่ใจว่าตำรวจสอบปากคำเพื่อนหรือญาติแตงโม เรื่องยารักษาโรคซึมเศร้าหรือยานอนหลับที่พบในร่างกายแตงโมว่าเป็นชนิดเดียวกันกับที่พบในคนบนเรือหรือไม่ เรื่องนี้อาจเป็นเหตุจูงใจในการฆาตกรรมด้วยการใส่ยา โดยไม่ได้เตรียมการมาก่อนจึงต้องอำพรางคดีหรือไม่ เพราะเชื่อว่า แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ที่อยู่บนเรือด้วยจะต้องให้การเท็จแน่นอน เพราะเจ้าของอู่เรือเอ็นบีซี ระบุได้รับแจ้งข้อความช่วยเหลือจากคนบนเรือประมาณ 22.20 น.แต่ในการแถลงข่าวกลับเป็นเวลา 22.34 น.
ส่วนพยานในคดีนี้มีผู้เชี่ยวชาญ 12 ปากที่มีใบรับรองในสาขาต่างๆ เช่น นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ตรวจสอบเรื่องบาดแผล แต๊ง พงศกร มหาเปารยะ นักแสดงชายที่ยืนยันว่าแตงโมเป็นคนขี้กลัว จะไปปัสสาวะท้ายเรือไม่ได้แน่นอน
ส่วนอะตอม สัมพันธภาพ เพื่อนดาราสาวก็รู้ว่าคนบนเรือนิสัยอย่างไร และยังมีประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำที่เก็บทรายและถ่ายภาพใต้น้ำไว้ได้ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ที่ระบุว่าถ้าแตงโมตกท้ายเรือ จะถูกดีดออกไม่ได้ถูกดูดเข้าใต้ท้องเรือ รวมถึงไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์ ที่ไปร่วมเก็บร่างแตงโมและมีภาพศพ
"การตัดสินใจรับเป็นคดีพิเศษ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอธิบดีดีเอสไอ เว้นแต่เกรงใจตำรวจ ถ้าตรงไปตรงมาต้องรับแน่นอน และคดีจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่จะไม่เกี่ยวกับคดีที่ จ.นนทบุรี" นายอัจฉริยะ กล่าว
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า เบื้องต้นจะสอบปากคำนายอัจฉริยะ และนำพยานหลักฐานไปประกอบกับข้อมูลคณะสืบสวนของดีเอสไอที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีที่นางรสนา โตสิตระกูล เคยมายื่นเรื่องร้องเรียนกับเราไว้ ก็จะนำมารวมเป็นสำนวนเดียวกัน โดยจะให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนเสนอให้คณะกรรมการของดีเอสไอพิจารณาว่าจะรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษหรือไม่