เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บริเวณกองร้อยทหารพรานที่ 2107 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี บ้านปากห้วยม่วง หมู่ 2 ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ.อ.ตระกูล ไทยสมัคร ฝ่ายเสนาธิการ บก.ควบคุม กองทัพภาคที่ 2 ร.อ.อาคม สมสนุก ผบ.กองร้อยทหารพรานที่ 2107 แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายวรชน คัชวา หรือหนึ่ง อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ 10 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และ นายรักษ์ศักดิ์  ดวงสงค์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 49/2 หมู่ 1 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน  พร้อมของกลางยาบ้า 6 มัด จำนวน 12,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน กฉ 1058 สกลนคร รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กง 5444 สกลนคร รวม 2 คัน โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ บริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลพะทาย(อบต.ฯ) อ.ท่าอุเทน ซึ่งเป็นถนนสายหลักจากนครพนมไปยังจังหวัดหนองคาย

 

พ.อ.ตระกูลฯ เปิดเผยว่าภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ผบ.บก.ควบคุมฯ พล.ต.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ ผบ.ฉก.ทพ.21 และ พ.ต.อ.นที สิริวรวัชน์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ สืบเนื่องเมื่อวันที่  12 กันยายน 2562 เวลา 13.00 น. กองกำกับการสืบสวน สภ.สว่างแดนดิน  จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9,800 เม็ด ที่ ต.พนา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากพื้นที่บ้านดงเย็น หมู่ 10 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้แจ้งมาที่กองบัญชาการควบคุม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ศอ.ปส.ชอน.) โดยระบุรูปพรรณผู้ต้องสงสัยที่ผู้ต้องหาสารภาพว่าลักษณะเป็นสาวประเภทสอง ชื่อนายวรชน คัชวา หรือหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันที่เจ้าหน้าที่ติดตามสืบสวนพฤติกรรมว่ามีส่วนร่วมในขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ให้การต่อว่านายวรชนหรือหนึ่ง จะนัดส่งยาบ้าให้อีกล๊อตในวันที่ 14 กันยายน ซึ่ง พล.ต.ประสิทธิ์ ทิศาวงษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุม จึงสั่งการให้กองร้อยทหารพรานที่ 2107 บ้านปากห้วยม่วง เฝ้าติดตามนายวรชนหรือหนึ่งอย่างใกล้ชิด อย่าให้คาดสายตาเด็ดขาด

จนกระทั่งวันที่ 14 กันยายน 2562 เวลา 06.00 น. นายวรชนได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านพัก มุ่งหน้าไปทางถนนทางหลวงแผ่นดิน 212(นครพนม-บ้านแพง) ชุดเฝ้าติดตามจึงวิทยุแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดักซุ่มตามเส้นทางดังกล่าว และก่อนจะถึง อบต.พะทาย นายวรชนได้หยุดรถแล้วเดินลงไปยังต้นไม้ใหญ่พร้อมกับถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว  เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซุ่มขอตรวจค้น พบห่อยาบ้าจำนวน 3 ก้อน จึงสอบสวนเบื้องต้นนายวรชนสารภาพว่าเป็นยาบ้าที่รับต่อมาอีกทอดจากนางบุญชู พิมบุผา เป็นคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะนำยาบ้ามาวางไว้ตามหลักกิโล หรือป้ายบอกทาง แล้วจะมีคนเดินยามารับต่อไปอีกทอด ซึ่งหลังจากนี้จะมีคนเดินยามาหยิบยาบ้าไปส่งลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงซุ่มต่อเพื่อจับกุมคนเดินยา โดยวางถุงบรรจุยาบ้าไว้ที่โคนต้นไม้ ปรากฏว่าได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ขับมาจอดบริเวณดังกล่าว แล้วคนขับทราบภายหลังว่าชื่อ นายรักษ์ศักดิ์  ดวงสงค์ เปิดประตูรถเดินลงไปยังโคนต้นไม้ที่วางถุงยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมทันที และนำตัวทั้งสองไปสอบสวนขยายผล

 

ผลการตรวจนับของกลาง เป็นยาบ้าเม็ดสีส้ม จำนวน 12,000 เม็ด และนำตัวสองทั้งตรวจหาสารเสพติด พบนายรักษ์ศักดิ์มีฉี่สีม่วง ซึ่งสารภาพว่าเสพยาบ้ามาก่อนที่จะขับรถยนต์มารับยาบ้าที่จุดนัดหมาย เพื่อนำไปวางไว้ที่หลักกิโลเมตรริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 22 สายนครพนม-สกลนคร ก่อนถึงทางเข้าสนามบินสกลนครประมาณ 2 กม. โดยนายรักษ์ศักดิ์อ้างว่าได้รับค่าจ้างจากนายวรชนหรือหนึ่งเป็นเงิน 5,000 บาท เพิ่งทำเป็นครั้งที่สอง แต่จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายวรชนหรือหนึ่งกะเทยแสบนี้ เป็นหัวหน้าแก๊งขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยมีนายรักษ์ศักดิ์เป็นลูกน้อง ทำหน้าที่รับยาบ้าไปส่งลูกค้าต่อในพื้นที่จังหวัดสกลนคร และร่วมกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเข้าจับกุม จนกระทั่งจับผู้ต้องหาได้ที่ สภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร จึงทราบว่านายวรชนกะเทยแสบจะจัดส่งยาบ้าอีกในวันที่ 14 กันยายน จึงวางแผนจับกุมดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำผู้ต้องหาอยู่นั้น ได้มีภรรยาของนายรักษ์ศักดิ์โทรศัพท์เข้ามือถือสามีหลายครั้ง แต่นายรักษ์ศักดิ์ไม่กล้ารับสาย พร้อมกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่ากลัวเมียจะช็อคที่รู้ว่าผัวถูกจับ เพราะเพิ่งตั้งท้องเพียงไม่กี่เดือน