"บิ๊กป้อม" หารือทูตเช็กฯ ผลักดันความร่วมมือระหว่างกันทุกมิติ
27 พ.ค. 2565, 19:44
วันนี้ ( 27 พ.ค.65 ) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรอง 303 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายมาเร็ก ลิบชีตซกี (H.E. Mr. Marek Libřický) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยกับเช็กมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นและยาวนาน โดยในปี 2567 จะครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับประชาชนของทั้งสองประเทศ โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณเอกอัครราชทูตเช็กฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน โดยหวังว่าเอกอัครราชทูตเช็กฯ จะยังคงสานต่อความร่วมมือ และสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันฟื้นฟูความร่วมมือที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเร่งจัดประชุมกลไกความร่วมมือเพื่อผลักดันให้ความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว
เอกอัครราชทูตเช็กฯ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบหารือกับรองนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลไทยที่สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีตลอดระยะเวลา 5 ปีกว่าที่ดำรงตำแหน่ง ยืนยันว่าจะยังคงสานต่อความร่วมมือและเป็นมิตรที่ดีกับประเทศไทยต่อไป ตลอดจนยินดีในโอกาสที่ทั้งสองประเทศจะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ในระดับผู้นำที่ใกล้ชิด พร้อมทั้งยืนยันว่า เช็กให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความร่วมมือกับไทยอย่างรอบด้าน เพื่อเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ดังนี้
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าเพิ่มสูงขึ้น และเชื่อมั่นว่าต่างมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าได้อีก โดยรองนายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้นักลงทุนจากเช็กเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มากขึ้น ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ และสอดคล้องกับโมเดล BCG ของไทยและแผน European Green Deal (EGD) ของสหภาพยุโรป โดยเอกอัครราชทูตเช็กฯ เน้นย้ำว่า นักลงทุนเช็กจำนวนมากสนใจลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC และพร้อมเพิ่มความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน BCG และการเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ
ความร่วมมือทางทหาร ทั้งสองฝ่ายยินดีที่กระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศมีการประสานงานและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด โดยไทยจะส่งผู้แทนเข้าร่วมงาน Future Forces Forum 2022 ในเดือนตุลาคม 2565 ที่กรุงปราก และยินดีที่ทราบว่า ฝ่ายเช็กจะส่งผู้แทนเข้าร่วมงาน Defense & Security 2022 ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565 ที่กรุงเทพฯ เช่นกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้แทนกระทรวงกลาโหมของทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันอีกครั้ง
ความร่วมมือด้านการกีฬา รองนายกรัฐมนตรียินดีที่ชาวเช็กให้ความสนใจกีฬามวยไทย โดยมีการจัดตั้งสมาคมมวยไทย (Czech Muay Thai Association) ซึ่งมีสมาชิกกว่า 6,000 ราย เป็นโอกาสในการส่งเสริมการทูตเชิงกีฬาระหว่างกัน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน โดยอาจพิจารณาความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนผู้ฝึกสอน นักกีฬา และการสนับสนุนการเข้าร่วมการแข่งขันมวยไทย ในเวทีต่างๆ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายเช็กสนับสนุนให้มวยไทยได้รับการบรรจุในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2571 ณ นครลอสแอนเจลิส ด้วย
สำหรับการฟื้นการเจรจา FTA ไทย-EU และการลงนามความตกลง Thailand-EU PCA เอกอัครราชทูตเช็กฯ ยืนยันพร้อมสนับสนุนการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีในโอกาสที่เช็กจะดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีสหภาพยุโรป (Presidency of the Council of the European Union) ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2565 ยืนยันไทยพร้อมให้การสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของเช็ก โดยเฉพาะการผลักดันให้ EU และอาเซียนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น