วันนี้ 29 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ผู้ประกอบการแพขนานยนต์ข้ามฝั่งข้ามทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ จากท่าแพห้วยแม่ขมิ้น - ท่าแพองสิต อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาค่าบริการในการนำรถยนต์ข้ามฝั่งจากเดิมคันละ 250 บาท เป็น 300 บาท (กรณีรถที่ใช้บริการจำนวน 2 คันขึ้นไป) และราคาค่าบริการจากคันละ 300 บาท เป็น 400 บาท (ราคาจ้างเหมา) ส่วนรถจักรยานยนต์ค่าบริการคิดคันละ 50 บาท เท่าเดิมไม่มีการปรับขึ้นราคา ที่สำคัญฟรีสำหรับผู้โดยสาร

แพขนานยนต์ ขนาดกว้าง 10 ยาว  15 เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่ดัดแปลงเครื่องยนต์มาจากเครื่องยนต์รถบรรทุก 10 ล้อ สามารถบรรทุกรถยนต์ได้ครั้งละสูงสุด 6 คัน รถจักรยานยนต์ 20 คน รวมผู้โดยสารอีกประมาณ 20 คน ซึ่งในอดีตก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19  ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการมากถึงวันละ 30,000-50,000 บาทต่อวัน และหากไม่ใช้เส้นทางแพขนานยนต์ ก็สามารถไปใช้เส้นทางอ้อมข้ามแม่น้ำก็มีเช่นกัน แต่ระยะทางไกล รวมถึงบางครั้งอาจเจอช้างป่าเดินลงมาหาแหล่งอาหาร อาจจะไม่ปลอดภัยได้ในเส้นทางนี้

เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สามารถย่นระยะทางได้กว่า 130 ก.ม. จากการเดินทางบนบกจาก ตัวอำเภอศรีสวัสดิ์ มายังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งการเดินทางต่อไปยังบ้านภูเตย ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ซึ่งสามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอสังขละบุรี ได้อีกทางบนเส้นทางลำลองผ่านพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของ อช.ศรีนครินทร์และ อช.ลำคลองงู

ขณะที่ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีรายได้ลดลงเหลือเพียงวันละ 1,600-3,000 บาทต่อวัน แต่ก็ยังต้องให้บริการเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้บริการ โดยหวังว่าเมื่อทุกอย่างดีขึ้น นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเหมือนในอดีต

ด้วยระยะเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ที่ต้องใช้ในการเดินทางข้ามฝั่งด้วยแพขนานยนต์ของที่นี่ แต่ด้วยทัศนียภาพระหว่างการเดินทางที่สวยงาม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายจากลมที่พัดผ่าน แผ่นน้ำที่มองไกลสุดสายตามีทิวเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ทำให้เป็นการเดินทางที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่มาใช้บริการหน้าใหม่

ห้องน้ำที่สะอาด ถังขยะ เปลสำหรับผูกนอน ที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบาย คือสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีไว้บริการทุกคนระหว่างการเดินทาง  ส่งผลให้แม้จะมีการปรับขึ้นราคาแต่ผู้ที่จำเป็นต้องใช้บริการก็มองว่ารับได้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น เมื่อเทียบกับการเดินทางที่สามารถย่นระยะทางได้กว่า 100 กม และช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง