เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



โจรกดหัวหญิงพิการ เชิดเงินพร้อมโทรศัพท์ ขณะนั่งขายของ คลานออกมาขอความช่วยเหลือ


10 ก.ค. 2565, 09:47



โจรกดหัวหญิงพิการ เชิดเงินพร้อมโทรศัพท์ ขณะนั่งขายของ คลานออกมาขอความช่วยเหลือ




วันที่ 9 ก.ค.65. จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟรสบุ๊คชื่อ  Noo Jam  ได้โพสต์แชร์คลิปวีดีโอ พร้อมระบุข้อความ ว่า   ผู้ใดพบเห็น หรือรู้จักบุคคลนี้ ได้จี้ชิงทรัพย์ร้านค้า จี้คนพิการและทำร้ายร่างกายบริเวณร้านค้าหน้าวัดนาบุญ เวลา 14.26 นาที ใครรู้จักหรือ เห็นบุคคลนี้ รบกวนช่วยแจ้งเจ้าของโพสต์นี้ด้วยนะค่ะ #ช่วยแชร์กันเยอะๆนะคะ  โดยภาพจากกล้องวงจรปิดได้มีชายอายุราวๆ 25-30 ปี ขี่รถจยย.  ยี่ห้อ ฮอนด้า  รุ่น เทน่า  ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว   สะพายกระเป้ด้านหน้า   ขี่มุ่งหน้าเข้ามาที่ร้านขายของชำก่อเหตุ ซึ่งมีหญิงพิการ นั่งขายของอยู่ในห้องกระจก แล้วก่อเหตุชิงทรัพย์

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 14/3 หมู่10  ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  เมื่อไปถึงเป็นร้านขายของชำ อยู่ติด  ถนนหน้าวัดนาบุญ  ได้พบกับ นาง สมจิตร ศรีชัย อายุ 55 ปี (ผู้พิการทางขา)  ได้เล่าให้ฟังว่า  เมื่อวานนี้ เวลา 14.30 น.  ตนอยู่คนเดียว เห็นเหมือนคนเดินเข้ามา ตนจึงได้ลุกขึ้นแต่ยังไม่ได้เปิดประตู มองหาคนแต่ไม่เห็น  สงสัยจะยืนแอบอยู่ พอมันเดินไปคงจะเห็นตนนั่งอยู่  มันจึงได้ถามว่า มีบุหรี่เอสแดงมั้ย ตนจึงตอบไปว่า ไม่มีหลอก มีแต่วันเดอร์ แต่ยังไม่ได้เปิดประตูคุย ประตูยังล็อคอยู่  เหมือนมันกำแบงค์พันอยู่ ตนจึงได้เปิดประตูถามว่า แบงค์อะไร  มันก็ตอบว่า แบงค์พัน ตนจึงบอกว่า ถ้าแบงค์พันป้าไม่มีถอนหลอก  พอตนเปิดประตู มันก็ข้ามเข้ามาและกดหัวตน บอกว่า ป้าอย่าส่งเสียงดัง  อย่าร้องนะ  ตนจึงได้บอกว่า อย่าทำป้านะ  มันก็บอกว่า ผมไม่ทำหลอก  ปกติทุกครั้งกระเป๋าตังจะอยู่ใต้หมอน   แต่มันกระเด็น ออกมาตอนไหนไม่รู้ คนร้ายมันเหลียวเห็น ก็รีบคว้าตังเลย และมันก็หันมาหยิบโทรศัพท์ เพราะตนเอาโทรศัพท์สีเหลืองวาง ไว้ พอมันได้โทรศัพท์และตัง มันก็ปิดประตูอย่างแรง  รีบเดินและขับรถออกไป  ตนจึงได้รีบคลานไปเรียกคนข้างบ้าน  เขาก็ ออกมา เพราะตนเคยเรียกเขาตอนเป็นลม  พอเขามาถึง ตนจึงได้บอกเขาว่ามีคนมาจี้กดคอ แต่มันกดไม่แรง คนร้ายมันก็ พูดดีนะ  ไม่ได้ทำร้ายร่างกายตน  คนร้ายได้เงินในกระเป๋าไป 1,100 บาท และโทรศัพท์รุ่นเก่า 1 เครื่อง  ตอนแรกมันยกเก๊ะตังเหรียญขึ้น และอีกมือนึงกดหัวตนไว้  พอมันเห็นกระเป๋าตัง มันรีบวางเก๊ะลง แล้วรีบคว้ากระเป๋าเงิน และรีบขับรถออกไปเลย   ส่วนตนนั้นตื่นเต้นและสั่นไปหมด  ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับ ต้องกินยานอนหลับ เพราะกลัวมาก กลัวเขาจะฆ่า ดีนะที่ตนเไม่ร้อง ถ้าร้องคนร้ายอาจจะตีตนได้



ส่วนคนร้าย ตนเองจำไม่ได้เพราะมันสวมหมวกกันน็อคปิดหน้า  รูปร่างไม่อ้วน อายุประมาณ 20-25 ปี เพราะว่าเมื่อ 3-4 วันที่แล้ว  มีคนมาเติมน้ำมัน ตนคิดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน  เพราะรูปร่างเหมือนกัน  มันเติมน้ำมันไป 2 ขวด ขวดละ 45  บาท  แต่ไม่มีตังให้ มันเอาโทรศัพท์มาไว้แทน เป็นโนเกียร์รุ่นเก่า  แต่ตอนนี้โทรศัพท์อยู่กับตำรวจ  เพราะมันบอกว่า ผมลืม กระเป่าตัง ตนได้ถาม ว่าบ้านอยู่ไหน  มันก็บอกว่า อยู่ทางนู้น พร้อมกับทำท่าชี้มือ ตนเลยบอกว่า โทนศัพท์ป้าไม่อยากได้ ป้าอยากได้ตัง  มันก็บอกว่า งั้นผมไปเอาตังก่อน  แต่ก็ยังไม่เห็นเอาเงินมาให้  สักพักมันก็มายืนแอบอยู่ และได้เดินมาเอาโทรศัพท์ยื่นให้  แต่ตาเหลือบมองในห้อง เพราะเก๊ะตังมันวางอยู่ตรงนี้  เหมือนกับว่ามาดูลาดลาวก่อน   ตนคิดว่าคนร้ายไม่ใช่คนแถวนี้  เพราะพอมันยื่นโทรศัพท์ให้มันก็ขับออกไปทางหน้าวัดเลย และโจรที่จี้ตนเมื่อวานก็ขับออกไปทางเดียวกัน

ด้าน นาง ชญาภัทร สมิงแก้ว อายุ 37 ปี  (ลูกสาว) เล่าว่า  เมื่อวานนี้แม่อยู่ร้านคนเดียว ส่วนตนไปทำงาน แม่จะอยู่คนเดียวแบบนี้ตลอด และจะปิดประตูล็อคไว้ น้องได้โทรมาหาตนบอกว่า มีคนมาชิงทรัพย์นะ  ตนจึงได้รีบกลับมาบ้าน และไปแจ้งความ เวลาประมาณ  19.00 น. เพราะต้องหากล้องวงจรปิดและหลักฐานก่อน  และเคยเกิดเหตุแบบนี้ มาก่อนหน้านี้แล้ว  ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว แต่ก็จับคนร้ายได้ เพราะโดนกันหลายร้านเหมือนกัน  ตนรู้สึกตกใจ ว่า มาอีกแล้วเหรอ  แต่คิดไว้แล้วที่มันเอาโทรศัพท์มาทิ้งไว้ มันต้องกลับมาชิงทรัพย์แน่ๆ   แล้วมันก็กลับมาจริงๆ  อยากให้จับคนร้ายให้ได้ ดีที่แม่ของตนไม่โดนคนร้าย ทำร้ายร่างกายไปมากกว่านี้  เพราะถ้าแม่ร้องอาจจะโดนบีบคอได้  เรื่องเงินไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องจิตใจแม่ แทนที่จะทำมาหากินได้เหมือนเดิม แกก็ไม่กล้าแล้ว  แม่ของตน พิการขาเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ถูกตัดขาข้างซ้าย และเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นอัมพาตครึ่งซีก เดินไม่ได้ แต่เมื่อก่อนเดินได้เพราะมีไม้ค้ำ แต่ตอนนี้เดินไม่ได้ 3 ปีแล้ว

ส่วนคนร้ายอยากให้หยุดการกระทำแบบนี้ ไม่อยากให้ไปทำกับร้านค้าอื่นๆ กว่าเขาจะหาเงินได้แต่ละบาท มันก็ลำบาก และเศรษฐกิจยิ่งเป็นแบบนี้  จึงอยากให้มามอบตัวมาขอโทษ  จะได้ไม่ต้องทำกับใครอีก ส่วนตอนนี้ก็คงจะต้องปิดร้านไปก่อน ไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียว กลัวว่าจะได้รับอันตราย แต่ถ้าตนเลิกงานมาก็คงจะขาย  เพราะปกติมันไม่มีอะไร แต่นี่เขามาวนอยู่หลายวันแล้ว   สุดท้ายนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ เพราะไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก เพราะกลัวคนร้ายจะวนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก 







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.