แบกต้นทุนไม่ไหว ! "ปลากระป๋อง" จ่อปรับราคาขายปลีก เหตุน้ำมัน-แก๊ส พุ่งไม่หยุด !
12 ก.ค. 2565, 15:12
วันที่ 12 ก.ค. 65 นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า สถานการณ์อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากใช้พลังงานถ่านหินเยอะและราคาเหล็กแพง ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสูงอาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจแบกภาระไม่ไหว โดยสมาคมทูน่า สมาคมอาหารแช่แข็ง และสมาคมบริหารสัตว์เลี้ยง ได้รวมตัวกันเข้าหารือกับกระทรวงพาณิชย์ ช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและขอปรับราคาเพิ่ม เช่น ปลากระป๋องซาดีน ที่ปัจจุบันขายปลีกราคา 18 บาท และอาจตั้งราคาใหม่ไม่เกิน 20 บาท โดยราคาที่เพิ่มขึ้นจะไม่กระทบต่อผู้บริโภคมากนัก
ทั้งนี้ การส่งออกมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง โดยสินค้าแปรรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็งมีการส่งออกสูงคือ ทูน่ากระป๋อง 90% ผลไม้กระป๋อง 70% และปลาซาดีนกระป๋องส่งออกน้อย ส่วนใหญ่จะผลิตขายภายในประเทศ
นายพจน์กล่าวว่า ขณะเดียวกันค่าไฟที่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการเพิ่มต้นทุนด้านราคาสินค้า ย้อนไปตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิดทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กลุ่มพลังงาน น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน แผนเหล็ก อะลูมิเนียม ปรับขึ้นทั้งหมด ผู้ประกอบการต้องหาทางปรับโครงสร้างต้นทุนในการลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นที่ไม่จำเป็นลง และต้องพูดคุยกับลูกค้าเรื่องการเพิ่มต้นทุน เพราะไม่สามารถขายสินค้าในราคาเดิมได้
นอกจากนี้ เรื่องการต่อสัญญาราคากับลูกค้าใหม่ ได้พูดคุยถึงปัญหาบ่อยครั้ง เนื่องจากปัญหาค่าเรือเกิดจากปีที่แล้วได้ปรับเพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า เป็นผลจากราคาน้ำมันสูง และการขาดแคลนเรือ รวมถึงความต้องการด้านดีมานด์เยอะก็ต้องคุยกับลูกค้าเป็นหลักถึงปัญหาและราคาขายที่เหมาะสม อีกทั้งเรื่องของสัญญาก็มีการปรับให้เป็นระยะเวลาสั้นลงช่วง 1-3 เดือน เพื่อป้องกันราคาผันผวน
“ตั้งแต่ต้นปีราคาสินค้าได้ปรับไปเรื่อยๆ ตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจอยากขายของสินค้าตัวใดที่ขายได้แล้วมีกำไรก็ยังคงใช้ราคาเดิม หากมีการปรับราคาก็จะปรับตามต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งการปรับราคาขึ้นต้องดูรายละเอียดตามความเป็นจริงที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบและนำมาพิจารณาให้ปรับเพิ่มตามความเหมาะสม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่โกงไม่ได้” นายพจน์กล่าว