ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ไม้เทพทาโร หรือไม้จวงหอม ส่วนใหญ่จะพบตามป่าดงดิบ และมีมากในภาคใต้ของไทย รวมทั้งจังหวัดตรัง ในอำเภอห้วยยอด วังวิเศษ และรัษฎา แม้ปัจจุบันไม้เทพทาโรจะมีจำนวนลดลง และถูกโค่นทิ้งเป็นจำนวนมาก จนเหลือเพียงตอและรากที่ฝังอยู่ในดิน แต่สำหรับชาวจังหวัดตรัง กลับเล็งเห็นคุณค่าของไม้ท้องถิ่นชนิดนี้ ด้วยการนำมาแกะสลักเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนสร้างชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นพะยูน สัตว์อนุรักษ์คู่จังหวัดตรัง ตลอดจนรูปสัตว์ต่างๆ หลากชนิดหลายขนาด ในราคาตั้งแต่ชิ้นละ 15 บาท ไปจนถึงรูปแบบต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการ อาทิ หลวงปู่ทวด เจ้าแม่กวนอิม พญานาค ชุดเบญจรงค์ หรือพืชผลประจำถิ่น อาทิ ลูกยางพารา มะม่วงหิมพานต์ (หัวครก) สะตอ ซึ่งบางชิ้นจะมีราคานับหมื่นนับแสนเลยทีเดียว ทำให้ปัจจุบันได้มีการปลูกไม้ชนิดนี้จำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต

ส่วนขั้นตอนในการผลิตไม้เทพทาโร จะมีการแบ่งงานกันทำตามความถนัดของแต่ละคน รวมทั้งขึ้นอยู่กับรูปแบบด้วย เริ่มตั้งแต่การนำรากและตอมาล้างทำความสะอาด แล้วใช้มีดสับให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ ก่อนนำไปตากแดดให้ไม้แห้งสนิท และขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์หยาบ จากนั้น ใช้วัสดุของมีคมตกแต่งลายให้สวยงามตามรูปแบบ ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญและความประณีตอย่างมาก

ทั้งนี้ โดยเฉพาะที่ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด ถือเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์แกะสลักไม้เทพธาโรใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง  ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ให้การสนับสนุนไปเยือนอย่างครบวงจร นับตั้งแต่การไปชมต้นเทพธาโร ตอและรากไม้ กรรมวิธีแกะสลักและขึ้นรูป หรือการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้เทพทาโรบ้านเขากอบ ซึ่งมี นายสุภาพ พลการ เป็นประธาน และมีสมาชิก 45 คน

สำหรับช่องทางตลาดส่วนใหญ่จะวางที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ซึ่งตั้งอยู่ปากทางเข้าถ้ำเลเขากอบ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง และยังมีการสั่งออเดอร์เข้ามาด้วย  รวมทั้งมีการทำตลาดเชิงรุก ด้วยการออกบูธ หรือไปออกงานโอท็อปตามจังหวัดต่างๆ นอกจากนั้นยังมีพ่อค้ามารับซื้อไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ อีกด้วย  ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากของทางกลุ่ม ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ระดับท้องถิ่นสามารถก้าวไกลไปในระดับโลก