เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.วีระพันธ์ กิ่งบัว พงส.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ได้รับแจ้งจาก นางราตรี พิมพ์วงศา อายุ 40 ปี ว่า นางโสม พิมพ์วงศา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 14  ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นญาติ เป็นผู้พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง หูหนวก เป็นใบ้ อยู่บ้านคนเดียว ถูกคนร้ายพยายามเผาบ้าน ทำให้เพลิงลุกไหม้เสื้อผ้า เป็นเหตุให้ยายโสมได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพุพองจากการถูกไฟลวกตามร่างกายหลายแห่ง

ดังนั้น  จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ  พร้อมด้วย  พ.ต.อ.สุชาติ  ละลี  ผกก.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ  และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า  บ้านมีลักษณะเป็นกระท่อมชั้นเดียว  หลังคามุงสังกะสี  ไม่มีไฟฟ้า บริเวณภายในบ้าน  พบร่องรอยการเผาไหม้บริเวณผนังบ้าน และเสื้อผ้าถูกไฟเผาไหม้ จำนวน 6 ตัว จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า  ยายโสม  เป็นผู้พิการหูหนวก  เป็นใบ้  และตาบอดทั้ง  2  ข้าง ใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง ไม่มีสามี  และลูก  มีเพียงญาติทางแม่ของยายโสม เป็นผู้ดูแล  ซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน หลังเกิดเหตุญาติได้สอบถามเหตุการณ์เป็นภาษามือกับยายโสม ได้ความว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่ยายโสมนอนอยู่ภายในบ้าน มีชายคนหนึ่งพังประตูเข้ามาหากลางดึก ลักษณะเมาเหล้า  และมาลูบคลำบริเวณกระเป๋าเสื้อลักษณะค้นหาเงิน ซึ่งยายโสมได้แสดงท่าทางบอกว่าไม่มีเงิน พร้อมยกมือไหว้ด้วยความกลัว  ซึ่งคาดว่าคนร้ายคงจะโมโห  จึงได้จุดไฟเผาเสื้อผ้าภายในบ้าน ยายโสมพยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ  และได้เอามือไปปัดเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้  เพื่อดับไฟ จึงถูกไฟลวกตามร่างกายได้รับบาดเจ็บ จากนั้น  มีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้อง  จึงเข้ามาดูแล  และช่วยดับไฟ  พอรุ่งเช้าจึงได้พายายโสมไปทำแผลที่ รพ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ก่อนเข้าแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว 

ต่อมา พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผกก.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งทำการสืบสวนและติดตามตัวผู้ก่อเหตุ  จากนั้น ได้ทำการจับกุมตัว นายบุญทัน เกาะแก้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 14 ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวน ซึ่งนายบุญทัน ให้การอ้างว่า ได้นำเอาอาหารไปให้ยายโสม แต่บ้านของยายโสมไม่มีไฟฟ้า และมืดมาก  จึงได้จุดเทียนเพื่อใช้เป็นแสงส่องสว่าง ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายหรือเผาบ้านและเสื้อผ้ายายโสม และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม  เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากนายบุญทัน มีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้า และชอบเผาสิ่งของ ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวเป็นประจำ เบื้องต้น  ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า  บุกรุก และทำร้ายร่างกาย พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาล  จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดต่อไป