ร.ต.อ.จิรายุ  อิ่นแก้ว รอง สารวัตรสอบสวน.กก.4 บก.ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าบุกยึดไม้ประดู่แปรรูป ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมาย ลักษณะเป็นแผ่นขนาดกว้าว 1 เมตร ยาว 10 เมตร จำนวน 70 แผ่น พร้อมด้วยอุปกรณ์ตรวจจับ GPS  1 อัน ภายในบ้านเช่าในสวนลำไยใกล้กับสุสาน หมู่ที่ 12 ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน 
     
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่ามีกลุ่มนายทุนลักลอบตัดไม้เถื่อน ที่เป็นไม้หวงห้าม เช่นไม้แดง ไม้มะค่าไม้สักและไม้หวงห้ามอื่นๆ ในเขต อ.ฮอด อ.อมก๋อย  จ.เชียงใหม่ และ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน แล้วลักลอบขนไม้พักไว้ในบ้านเช่าเขตตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จึงทำการสืบสวนจนกระทั่งพบว่า มีการลักลอบขนใส่รถกระบะบรรทุกสินค้าการเกษตร แอบแฝงมาโดยนำไม้เถื่อนดังกล่าวซุกไว้ด้านล่างแล้วนำกระสอบใส่แกลบวางทับไว้ด้านบน ขนมาในตอนกลางคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่าเป็นนายทุนกลุ่มเดียวที่ถูกจับก่อนหน้านั้นที่ อ.ป่าซาง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564  ซึ่งเป็นการนำมาพักไว้เพื่อรอก่อนที่จะส่งไปขายที่ประเทศจีน ซึ่งหากไม้ประดู่ล็อตดังกล่าวถูกส่งไปยังประเทศจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านบาท 

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบเครื่องสะแกนตรวจวัตถุโลหะชนิดแบบที่ใช้ในสนามบิน ซึ่งกลุ่มตัดไม้เถื่อนมีไว้สำหรับตรวจหาวัตถุและ GPS ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำมาฝังไว้ในต้นไม้ สำหรับตรวจสอบและค้นหาต้นไม้ หรือแหล่งที่มาของไม้ว่ามาจากที่ใด แต่กลุ่มนายทุนเหล่านี้ก็รู้เท่าทันวิธีการของเจ้าหน้าที่ หลังโค่นต้นไม่ในป่าและแปรรูปแล้วก็จะนำเครื่องสะแกนหาGPS และวัตถุที่เจ้าหน้าที่ฝังทำตำหนิไว้เพื่อตรวจสอบไม้ เมื่อพบวัตถุหรือGPSก็จะแกะออกเพื่อให้ยากแก่การติดตามของเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวล้ำในยุคเทคโนโลยีที่กลุ่มนายทุนรู้เท่าทันวิธีการของเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด