ปลัดมท. สัมมนาเพิ่มศักยภาพ อบจ.ภาคกลาง ย้ำจับมือผู้ว่าฯ สร้างประโยชน์สูงสุดให้ปชช.
5 ส.ค. 2565, 17:23
วันนี้ ( 5 ส.ค.65 ) เวลา 09.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการอบรมสัมมนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลาง ประจำปี 2565 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายสุรพล เจริญภูมิ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและประธานสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลาง ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ 25 จังหวัดภาคกลาง ให้การต้อนรับ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน และรับรู้ปัญหาของประชาชนในท้องถิ่นได้ดีที่สุด การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และอยากให้ทุกจังหวัดมีการประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ ประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่จังหวัดร่วมกัน ขอให้นำตัวอย่างของสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลาง ไปขยายผลให้เกิดขึ้นในหลายๆ พื้นที่ และบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งสองส่วนต้องผสมกลมกลืนกัน เนื่องจากทำงานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การส่งเสริมวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัด ต้องมีการน้อมนำเอาหลักปรัชญาตามหลักทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระราชทานไว้ให้และที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด เราต้องน้อมนำมาปรับใช้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถอยู่ด้วยตนเองได้ มีแหล่งน้ำเป็นสมบัติของตัวเองเพื่อใช้ทำมาหากิน และสามารถบริหารจัดการที่ดินของตนเอง รวมไปถึงการต่อยอดให้เกิดเกษตรแปลงใหญ่ที่เป็นเหมือนดั่งจิกซอว์ ทำให้พื้นที่สามารถรวมกลุ่มกันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในแต่ละพื้นที่ได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า โครงการนี้ จัดขึ้นเพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานและเส้นทางความก้าวหน้าของข้าราชการส่วนท้องถิ่น รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ปัญหาและอุปสรรค และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอต่างๆ สามารถนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเครือข่ายองค์การบริหารส่วนจังหวัด อันจะก่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วย โดยได้รับการสนับสนุนและรับความร่วมมือจากสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลางในด้านงบประมาณ และได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำนักงานคลังจังหวัดชลบุรี เพื่อบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ประกอบด้วย ผู้บริหาร ผู้ช่วยผู้บริหาร สมาชิก ประธานสภา สมาชิกสภา ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลางทั้ง 25 จังหวัด ผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า ความรัก ความสามัคคี ความสัมพันธ์ระหว่างกันจะเป็นปัจจัยความสำเร็จในการทำงาน หน้าที่ของ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่สำคัญ ต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและมีภาวะผู้นำสูง ในการที่จะ Change for Good ทำให้ข้าราชการมีอุดมการณ์ (Passion) ที่จะผลักดันขับเคลื่อนงานจังหวัด และมีทัศนคติ (Attitude) ที่ดีในการทำงานเพื่อประชาชน นอกจากนั้นแล้ว ต้องอาศัยหลัก R-E-R เข้ามาใช้ในการบริหารงาน โดยสามารถแยกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1) งานประจำ (Routine Jobs) เป็นงานที่ต้องอาศัยความคิดริเริ่มมากที่สุด เนื่องจากผู้ปฏิบัติมีความคุ้นชินเป็นปกติ ทำให้ละเลยการพัฒนาในหน้าที่นั้นๆ ทำให้ไม่เกิดการพัฒนางาน 2) งานพิเศษ/งานสำคัญ/งานเสริม (Extra Jobs) ซึ่งเป็นงานที่นอกเหนือจากงานประจำ ซึ่งต้องใช้หัวใจในการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานต้องมี อุดมการณ์ (Passion) และ ทัศนคติ (Attitude) เป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับองค์กรและประชาชน เพื่อช่วยกัน Change for Good ทำให้จังหวัดของเราน่าอยู่สวยงาม โดยอยากให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นผู้ริเริ่มสิ่งต่างๆ เหล่านี้ในจังหวัด และช่วยขยายผลให้เกิดไปยัง อบต. และ เทศบาล ต่อไป และ 3) การรายงาน (Report) เป็นสิ่งที่หลายๆ องค์กรมองข้าม ไม่ได้ให้ความสนใจ ทำให้ประชาชนไม่รับรู้ รับทราบถึงสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่องค์กรของเราได้ทำ โดยสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ และสิ่งที่สำคัญคือ ทุกคนสามารถถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนหรือผู้มีส่วนได้เสียได้ เช่น สื่อมวลชน เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยทุกคนสามารถเป็นสื่อมวลชนได้ ร่วมกันประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีๆ ที่องค์กรเราได้ทำ และรวบรวมความเห็นของพี่น้องประชาชนนำกลับมาปรับปรุงกระบวนการการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการสื่อสารสองทางระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน หากเราสามารถปรับปรุงพัฒนาทั้ง 3 เรื่องนี้ได้ จะทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรที่มีความรักสามัคคี ประชาชนได้รับประโยชน์จากการทำงานที่ดีขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องสำคัญที่สุดที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดรวมไปถึงทุกหน่วยงานต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ ร่วมกันแก้ไขปัญหาความยากจน โดยในปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยใช้ข้อมูลจากระบบ TPMap และอีกฐานข้อมูลหนึ่งคือระบบ ThaiQM เป็นแพลตฟอร์มที่กรมการปกครองได้พัฒนาขึ้นมา และนำมาใช้สำรวจครัวเรือนยากจน ซึ่งพบว่ามีครัวเรือนที่มีปัญหาความเดือดร้อนกว่า 4 ล้านกว่าครอบครัว ข้อมูลนี้เป็นฐานข้อมูลที่สำคัญที่จะทำให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้รู้ว่าต้องให้ความช่วยเหลือแต่ละครัวเรือนอย่างไร มีหลายครอบครัวที่ยังไม่มีบ้าน ไม่มีส้วม ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีเงินส่งลูกเรียน มีคนจำนวนมากที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีปัญหาหนี้นอกระบบ ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบล สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อช่วยเติมเต็มสิ่งที่เป็นงานประจำ (Routine Jobs) และงานเสริม (Extra Jobs) ให้สามารถสำเร็จได้ ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างยั่งยืน
"ขอให้ นายก อบจ. และพี่น้อง อบจ. ได้ร่วมกันทำงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกันวางแผนพัฒนา ขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สุขกับพี่น้องประชาชนร่วมกัน และขอให้ทุกท่านตั้งใจนําความรู้ ประสบการณ์ที่ได้จากโครงการอบรมสัมมนาฯ ไปประยุกต์สู่การปฏิบัติจริง เพื่อให้เป็น “อบจ. ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน” ตามความมุ่งหวังของพี่น้องประชาชน และมี Passion ที่ทุกท่านพร้อมจะ Change for Good เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง" นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวทิ้งท้าย