โจรแสบ! ปีนรั้วกำแพงบ้าน ทำทีเป็นเจ้าของบ้าน เข้ามาขโมยของทั้งที่มีคนในบ้าน แบบไม่กลัวเกรง
19 ก.ย. 2562, 11:58
ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายขณะปีนรั่วบ้าน เข้ามาอยู่ภายในบริเวณบ้าน ก่อนเดินย่องไปมาแล้วใช้เสื้อผ้าดึงปิดบังใบหน้า และยังถอดรองเท้าผ้าใบ สวมใส่ถุงน่องสีดำเดินย่องไปตรงประตูกระจกบานเรือนหน้าบ้าน จากนั้นคนร้ายได้มอง เข้าไปภายในบ้าน แล้วได้รีบผลักประตูเข้าไปหยิบกระเป๋า 2 ใบที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องโถง แล้วรีบวิ่งออกมาจากในบ้านวิ่งหนีปีนรั่วกำแพงบ้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.10 น.ของวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
เมื่อช่วงเย็น วันที่ 18 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว onb news ได้เดินทางไป ที่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 8 ตำบลปากกราน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ นางสาว วิมลรัตน์ สิทธิประเสริฐ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน และเป็น ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.10 น. ขณะนั้นตนเองได้ รีดผ้าอยู่ในบ้านหน้าทีวี โดยมีลูกชายคนเล็กนอนอยู่บนโซฟา ลูกสาวคนโตอยู่ในห้องนอน จากนั้นลูกชายคนเล็ก เกิดง่วงนอน จึงเดินเข้าห้องนอน ส่วนลูกสาวคนโตได้เดินสวนออกมาจากห้องนอน เป็นจังหวะเดียวกับที่คนร้ายเป็นชายได้เปิดประตูเข้ามาพอดี โดยตนก็ไม่เห็น เพราะรีดผ้าอยู่ลูกสาวจึงถาม ว่าใครเข้ามาในบ้าน คิดว่าพ่อกลับมาบ้านแล้ว แต่ดูแล้วไม่ใช่ จึงตะโกนบอกตน ทำให้คนร้ายตกใจรีบหยิบกระเป๋า นักเรียน 2 ใบ ของลูกสาวที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้ติดกับประตูบ้าน แล้วรีบวิ่งหนีออกไป โดยปีนรั้วกำแพงบ้านกระโดดหลบหนีไปอย่างรวดเร็วลูกสาวและตนเองก็วิ่งตามออกไปแต่ไม่ทัน จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งให้สามีกลับมาบ้านทันที
ก่อนรีบมาเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบเห็นคนร้ายเป็นชายลักษณะแต่งตัวดีมีรอยสักอยู่บริเวณแขนด้านขวา โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะก่อเหตุได้ทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้นั้นเป็นกระเป๋านักเรียนของลูกสาวซึ่งภายในก็ไม่ได้มีอะไรนอกจากหนังสือเรียนปากกา และบัตรประชาชนของลูกสาว แต่ที่ทำให้รู้สึกกังวล อย่างมากก็คือ ในความไม่ปลอดภัย อยู่บ้านหลังนี้มา 10 ปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนรู้สึกหวาดกลัวที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ทั้งที่บ้าน ก็มีรั้วกำแพงรอบบ้านแถม ไฟส่องแสงสว่างที่บ้านก็เปิดทุกดวงและยังมีคนอยู่ในบ้านด้วยยังกล้าเข้ามาก่อเหตุ แต่ก็ยังโชคดีที่คนร้ายไม่ได้มาทำร้ายตนเองและลูกสาว ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน ปกติแล้วอยู่บ้านจะไม่ได้ล็อคประตูบ้านเพราะคิดว่ามีรั้วกำแพงบ้านแล้วคงไม่มีใครกล้าเข้ามาในบ้าน ต่อไปนี้คงต้องล็อคประตูและหน้าต่างทุกบาน ตนเองจึงได้นำเรื่องราวทั้งหมด ลงโซเชียลเพื่อฝากเตือน ให้ทุกคนระวังตัวขนาดอยู่ในบ้านเรายังมีคนร้ายกล้าเข้ามาก่อเหตุได้ จากนั้นตนได้นำภาพกล้องวงจรปิดเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว