วันนี้ 30 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาญจนบุรีและกรรมการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรีได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฉลององค์พระกฐินสามัคคีและถวายเพลพระโดยมีท่านเจ้าคุณหระสมณานัมธีราจารย์ พระราชาคณะชั้นสามัญ ผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายซ้ายอนัมนิกาย แห่งประเทศไทย อธิบดีสงฆ์วัดถาวรวราราม กาญจนบุรีพร้อมด้วยคุณเปรมวดี อารีย์ สรรพสินค้า และครอบครัว พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับ ณ อุโบสถวัดถาวรวราราม(วัดญวน) ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้นวัยกรวัดได้กล่าวเรียนเชิญนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเบื้องหน้าพระประธานเพื่อประกอบพิธีฉลองผ้าพระกฐินของวัดถาวรวราราม(วัดญวน)เสร็จแล้วนายจีระเกียรติพร้อมด้วยนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจ.กาญจนบุรีได้ร่วมถวายเงินกองกฐินให้กับท่านเจ้าคุณหระสมณานัมธีราจารย์ พระราชาคณะชั้นสามัญ ผู้ช่วยเจ้าคนะใหญ่ฝ่ายซ้ายอนัมนิกาย แห่งประเทศไทย อธิบดีสงฆ์วัดถาวรวราราม กาญจนบุรีและร่วมถวายเพลพระ

คุณเปรมวดี อารีย์ ประธานผ้าพระกฐินสามัคคีได้นำคณะญาติโยมที่เดินทางนำกองกฐินมาร่วมถวายได้ร่วมขบวนแห่เดินรอบพระอุโบสถจำนวน 3 รอบพร้อมกับนำกองกฐินเข้าไปประกอบพิธีถวายผ้ากฐินภายในพระอุโบสถวัดถาวรวราราม(วัดญวน) คุณเปรมวดี อารีย์ ประธานกองกฐินสามัคคี ได้เป็นประธานจุดธูปเทียนทองท่านเจ้าคุณพระสมณานัมธีราจารย์ พระราชาคณะชั้นสามัญ ผู้ช่วยเจ้าคนะใหญ่ฝ่ายซ้าย อัมนิกาย แห่งประเทศไทย อธิบดีสงฆ์วัดถาวรวราราม กาญจนบุรีประธานฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีสงฆ์พร้อมกับร่วมกันถวายกองพระกฐินวัดถาวรวราราม(วัดญวน)ประจำปี 2565 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,297,310 บาท

ประวัติของ...วัดถาวรวราราม (คั้นถ่อตื่อ) หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดญวน” นั้น เป็นวัดญวนในพระพุทธศาสนาฝ่ายอนัมนิกายลัทธิมหายาน และมีชื่อตามภาษาญวนว่า “คั้นถ่อตื่อ” ที่แปลเป็นไทยว่า “อยู่อย่างมั่นคงถาวร”

ชื่อวัดถาวรวรารามนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานนามไว้ ส่วนการสร้างวัดเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และถือเป็นวัดญวนแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีอายุกว่าร้อยปีแล้ว โดยการก่อสร้างริเริ่มจากครอบครัวชาวญวนที่นับถือพระพุทธศาสนา (ชาวญวนที่อพยพมาหลังการทำสงครามระหว่างไทยกับเวียดนามในสมัยรัชกาลที่ 3) ร่วมแรงร่วมใจบริจาคทุนทรัพย์สร้างวัดขึ้นในราวปี พ.ศ. 2377

อุโบสถสร้างเมื่อปี พ.ศ.2436 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศิลปะแบบจีนผสมกับญวน ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” มีพุทธลักษณะประทับนั่งปางมารวิชัย (ปางพิชิตมาร) หน้าตักกว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอก 1 คืบ สร้างจากศิลาแดง แต่เดิมเป็นพระประธานวัดนางพิมพ์ (วัดร้างสมัยอยุธยา) ซึ่งตั้งอยู่เขตเมืองกาญจนบุรีเก่า พระอธิการเหยี่ยวเค ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานของวัดพร้อมกับพระพุทธรูปอีก 2 องค์ที่ตั้งประดิษฐานขนาบข้างซ้ายขวา ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2519 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เมื่อทรงดำรงพระอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานนามใหม่ว่า “พระพุทธสถาพรมงคล” พ.ศ.2539 องสรภาณมธุรสเริ่มก่อสร้างพระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรเพื่อน้อมถวายพระองค์ท่าน และเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่ทรงมีชาติภูมิที่จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งนี้พระตำหนักฯ หลังนี้ใช้เวลาการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 10 ปีจึงแล้วเสร็จ

กุฏิบูรพาจารย์สร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ตัวอาคารมีลวดลายประติมากรรมแบบจีนประสมญวนที่งดงาม ภายในมีรูปหล่อเหมือนจริงของอดีตเจ้าอาวาส วัด และเป็นที่ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยเมตตาธรรมของเจ้าอาวาสด้วย