"พล.อ.ประวิตร" ประธานพิธี MOU 22 หน่วยงานรัฐ บูรณาการจัดการที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
2 ก.ย. 2565, 15:51
วันนี้ ( 2 ก.ย.65 ) นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ครั้งที่ 2/2565 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ซึ่งมี 22 หน่วยงานร่วมแสดงเจตจำนงในการผนึกกำลังกันบูรณาการพัฒนาพื้นที่ คทช. โดยการสนับสนุนจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ในลักษณะแปลงรวมโดยมิให้กรรมสิทธิ์แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เป็นกลุ่มหรือชุมชน เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการขาดที่ดินทำกิน โดยให้พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ ได้มีสิทธิทำกิน และอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐ ป้องกันการเปลี่ยนมือ และการเข้ามาครอบครองของนายทุน รวมทั้งช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน และตกทอดไปถึงลูกหลานได้ พร้อมได้เน้นย้ำให้หน่วยงานรัฐ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา เส้นทางคมนาคม และแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภคต่าง ๆ เพื่อให้สามารถลงหลักปักฐานต่อไปในระยะยาวได้ รวมทั้งให้มีการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ และต่อยอดไปสู่การจัดหาตลาด รวมถึงช่องทางการกระจายผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถมีรายได้อย่างเพียงพอและมั่นคง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง รวมทั้งช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ
รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำขอให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนกลาง จังหวัด และระดับท้องถิ่นมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งในการวางแผนขับเคลื่อนการดำเนินงาน และการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้เกิดความรวดเร็วและสอดคล้องเป็นระบบ อันจะทำให้การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที เพื่อร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือประชาชนให้สามารถอยู่ดีกินดีและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นความต้องการของรัฐบาลและข้าราชการทุกคน พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน
สำหรับการพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มีหน่วยงานร่วมลงนาม ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ 2) กลุ่มหน่วยงานพัฒนา ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมทางหลวงชนบท กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง และกรมการพัฒนาชุมชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินการร่วมกันให้เกิดการอนุญาตและดำเนินการที่รวดเร็วขึ้นโดยเฉพาะด้านการพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่ง การพัฒนาแหล่งน้ำและระบบไฟฟ้าที่จะช่วยให้ประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน