หนุ่มใหญ่จบชีวิตสลดคาบ้าน คาดหลอนยา-คิดว่ามีคนมาทำร้าย
14 ก.ย. 2565, 17:22
พ.ต.ท.สามารถ บุญฤทธิ์ สารวัตร(.สอบสวน)สภ.พนัสนิคมได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียง พนัสนิคม ว่ามีเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอพนัสนิคม รับทราบ และเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวร โรงพยาบาลพนัสนิคม และอาสากู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพอเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว เลขที่ 211 หมู่ 7 ตำบลหนองเหียงอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรีบริเวณหน้าบ้านพบประชาชนกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก
จากการตรวจสอบภายในบ้านพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอำนาจ พรมจีน อายุ 48 ปี นอนเสียชีวิตจกองเลือดอยู่กับพื้นปูน ติดกับตู้เย็น สภาพหงายหน้า สวมกางเกงกีฬาขาสั้น สีดำ สวมเสื้อยืดสีเข้มมีบาดแผลถูกคมกระสุนปืนเข้าที่ขมับซ้าย กระสุนทะลุขมับขวา จำนวน 1 รู ใกล้กันยังพบอาวุธปืน .38 แบบไทยประดิษฐ์ตกอยู่บนพื้นด้ายซ้ายทางแพทย์ได้ทำการตรวจสอบชันสูตร คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงจากการสอบถามญาติซึ่งเป็นพี่สะใภ้ (เสื้อดำซึ่งไม่ขอเอ่ยนาม)นายอำนาจมักมีพฤติกรรมคล้ายคนหลอนๆ คิดว่าจะมีคนมาทำร้ายตนเองให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนวันเกิดเหตุช่วงเช้าตนเองเห็นนายอำนาจ เพียงแต่ได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังขึ้น หนึ่งครั้ง ตนเองยังคิดว่ามีคนมาจุดประทัดหรือยิงนกใกล้บ้าน จนกระทั่งเอะใจจึงเดินออกมาดูก็พบนายอำนาจ นอนจมกองเลือดและเห็นอาวุธปืนตกอยู่ ข้างๆลำตัว จึงรีบวิ่งออกมาโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ส่วนทางด้านนางสาวปุ้ย กลัดนาม อายุ 38 ปี ภรรยาของนายอำนาจ ผู้เสียชีวิต ที่ยังอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ เล่าว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมชอบยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเมื่อคืนก็มีอาการเดินไปเดินมา ไม่ยอมนอน มากระทั่งรุ่งเช้าตนเองได้ออกไปทำงานตั้งแต่ 07.00 น. ระหว่างกำลังทำงานก็ได้มีญาติโทรศัพท์มาบอกว่าสามีของตนเองยิงตัวเองเสียชีวิตจึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้าน ก็พบสามีนอนเสียชีวิตไปเสียแล้วส่วนอาวุธปืนที่ทางนายอำนาจใช้ก่อเหตุนั้นทางนายอำนาจได้มีเก็บไว้นานแล้วไว้ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุและหลักฐานเอาไว้ และจำทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลพนัสนิคม เพื่อทำการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อให้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแท้จริง และดำเนินการตามประเพณีต่อไป