"สมาคมกู้ภัยบ่อพลอย" จัดพิธีมหากุศลเก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้า พบร่าง "อดีตเจ้าอาวาสวัด" ฝังมานานหลายสิบปี ไม่เน่าเปี่อย
16 ต.ค. 2565, 19:11
วันนี้ 16 ต.ค. 2656 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณวัดหนองย่างช้าง ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ทางสมาคมกู้ภัยบ่อพลอย ร่วมกับพุทธสมาคมคุณธรรมแห่งประเทศไทย (เต็กก่า จีน้ำเกาะ) จัดพิธีเก็บศพไร้ญาติ ภายในบริเวณป่าช้าของวัดแห่งนี้ โดยพิธีได้จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน คือวันที่ 15 ถึง 17 ต.ค. 65 โดยมีทางพุทธสมาคมคุณธรรมแห่งประเทศไทย (เต็กก่า จีน้ำเกาะ) ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น พร้อมประชาชนจากหลายจังหวัด ไปร่วมพิธีมหากุศลในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก และพิธีมหากุศลครั้งนี้ได้พบร่างของหลวงพ่อทอง อดีตวัดหนองย่างช้าง ซึ่งมรณะภาพไปนานหลายสิบปี แต่ร่างของท่านยังสมบูรณ์ไม่เน่า ไม่เปื่อย โดยผู้ที่เข้าร่วมพิธีต่างรู้สึกภูมิใจที่ ได้เข้าร่วมพิธีเช่นนี้ ถือว่าเป็นมหากุศลอย่างยิ่งใหญ่ของชีวิต ที่ได้ช่วยส่งวิญญาณเขาเหล่านี้ไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป
นายวิทยา วงศ์ลิขิตปัญญา นายกพุทธสมาคมคุณธรรม ได้กล่าวถึงพิธีมหากุศล ในครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม โดยทางสมาคมกู้ภัยบ่อพลอย ได้จัดขึ้น โดยเชิญทางพุทธสมาคมคุณธรรมแห่งประเทศไทย มาร่วมประกอบพิธีเก็บศพไร้ญาติในครั้งนี้ และงานเก็บศพไร้ญาติถือว่ายิ่งใหญ่มาก เนื่องจากศพ้หล่านี้หากฝังทิ้งไว้เขาก็จะไม่มีใครมาเซ่นไหว้ ตามหลักที่สิบทอดกันมา ทุกเชื้อชาติจะนับถือแตกต่างกันไปตามความเชื่อ ทางนิกายมหายาน ก็ไม่แตกต่างกับทางศาสนาพุทธ ขั้นตอนคล้ายๆกัน ซากศพทั้งหมดนั้นไม่ใช่ญาติเรา แต่เรามาทำโดยไม่ได้รังเกียรติ เสมอหนึ่งเราเป็นญาติกัน ทุกคนต้องนุ่งขาวห่มขาว ในการเข้าพิธีเก็บศพไร้ญาติ การนำเอากระดูกที่ได้มาทำความสะอาด โดยไม่ได้รังเกียรติ แม่แต่กระดูกเหล่านั้นจะเปี่อยหรือส่งกลิ่นก็ไม่ได้เหม็น เพื่อนำไปรวมกัน ก่อนนำไปในมณฑลพิธีใหญ่ที่จัดขึ้น ก่อนมีการสวดแบบนิกายมหายาน หรือแบบไทย ตามระยะเวลาเปิดป่าช้าตามที่ต่างๆ ซึ่งในครั้งนี้สมาคมกู้ภัยบ่อพลอยร่วมใจ ก็เป็นสมาชิกของ พุทธสมาคมคุณธรรมแห่งประเทศไทย (เต็กก่า จีน้ำเกาะ) ซึ่งสถานที่แห่งนี้ทางกู้ภัย ได้นำศพไร้ญาติมาฝังไว้เป็นจำนวนมาก การล้างป่าช้าครั้งนี้เพื่อให้ป่าช้าของวัดมีที่ว่าง จึงได้นำคณะมาทำการล้างป่าช้าในครั้งนี้ เพื่อเชิญอัฐิกลับไปบำเพ็ญกุศล ยังมณฑลพิธีในจังหวัดขอนแก่น
หลังจากการปิดป่าช้าแล้ว ก็จะมีขั้นตอนสวดโปรดวิญญาณ โดยจะมีการสวอโปรดวิญญาณ ตามท้องถนน ในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย โดยในวันสุดท้ายเมื่อเสร็จพิธีล้างป่าช้า เนื่องจากวิญญาณเขาจะอยู่แถวๆ นี้ เพื่อเชิญไปร่วมกัน ก่อนเชิญน้ำสักสิทธิ์ มาบูชา ส่วนหนึ่งนำไปล้างกระดูกทั้งหมด แล้วทำการปิดแผ่นทอง พรมน้ำอบ ก่อนเชิญขึ้นเมรุแบบจีน โดยมีพระสงฆ์จีนมาประกอบพิธีมหากงเต็ก ก่อนเชิญดวงวิญญาณทั้งหมดข้ามสะพานวัฏสงสาร ตามความเชื่อของนิกายมหายาน เพื่อให้วิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดียิ่งขึ้นต่อไป........มีเสียง คุณวิทยา วงศ์ลิขิตปัญญา...........
สำหรับขั้นตอนหลักของการล้างป่าช้า จะเริ่มจากการอัญเชิญกระถางธูปของเทพเจ้าผู้คุ้มครองศาลเจ้าที่นับถือ และแห่งรอบตลาดหรือแห่รอบชุมชนที่จะทำการล้างป่าช้า ต่อมาจะทำพิธีเปิดป่าช้า (ไคบ้อซัว) และจำออกป่าช้ากันทุกวันจนกว่าจะได้ศพตามจำนวนที่กำหนดไว้ และเข้าสู่พิธีปิดป่าช้า (อี่บ้อซัว) จึงจะมีการตั้งธงสถิตวิญญาณ (เซงปอก่าย) จากนั้นก็จะประกอบพิธีโปรดวิญญาณ (เตี่ยวโกวฮุง) ต่อมา จะตั้งขบวนแห่ไปอัญเชิญน้ำทิพย์ศิกดิ์สิทธิ์ (ฉูจุ้ย) และพิธีต่อมาคือพิธีล้างกระดูก (โซ่ยโกวกุก) ปิดทองอัฐิ พิธีมหากงเต็กเปิดแดนนรก (พั่วตี่เง็ก) เมื่อเสร็จจากพิธีนี้แล้วก็จะอัญเชิญอัฐิทั้งหมดที่ผ่านขั้นตอนแล้วขึ้นสู่เมรุเพื่อทำการฌาปนกิจหรือที่เรียกว่า (ฮวยห่วย) เมื่อเสร็จพิธีนี้แล้ว ก็จะนำอัฐิที่ฌาปนกิจเรียบร้อยใส่ในหาบทองและตั้งขบวนแห่อัฐิไปบรรจุยังสุสานรวม จากนั้นจะมีพิธีลอยกระทงอัญเชิญดวงวิญญาณทางน้ำ และพิธีโปรยทานอุทิศบุญกุศลแก่ดวงวิญญาณที่ไร้ญาติ เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็จะมีการทำพิธีขอบคุณเทวดา และเซ่นไหว้บรรพบุรุษอีกครั้งเป็นอันเสร็จพิธีล้างป่าช้า ผู้ที่เข้าร่วมงานล้างป่าช้านี้ โดยเฉพาะคนทรง เจ้าภาพ และคณะกรรมการคณะล้างป่าช้า ต้องถือศีล 8 กินเจ เพื่อทำให้บริสุทธิ์ทั้งกายและใจตลอดช่วงของการล้างป่าช้าจนกว่าจะเสร็จสิ้นงาน ในระหว่างงานทางนั้นทางเจ้าภาพจะเปิดโรงทานจัดการดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารเจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคนด้วย ผู้ที่เข้าร่วมพิธีจะต้องสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ เพื่อให้ได้ช่วยกันทำงานด้วยจิตบริสุทธิ์ กลุ่มของศาลเจ้าและมูลนิธิต่างๆ ที่จัดพิธีล้างป่าช้าในประเทศไทยนั้นมีอยู่ด้วยกัน 4 กลุ่ม