วันที่ 26 ต.ค.65 เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา  ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามี รถพ่วง 18 ล้อ ชนราวสะพานตกคลอง กม.ที่ 79  ถ.พหลโยธิน ต.สนับทึบ  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย กู้ภัยปอเต็กตึ้งพระนครศรีอยุธยา
เมื่อไปถึง เห็น ชาวบ้านมุงดูบนราวสะพานกันเป็นจำนวนมาก จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบ รถพ่วง 18 ล้อ ตกอยู่ในคลองหนองปลาหมอ เขต อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งเป็นรอยต่อกับ อ.วังน้อย แต่หาคนขับไม่เจอ ในที่เกิดเหตุ พบ ชิ้นส่วนล้อรถพ่วง 18 ล้อ หลุดออกมา และชิ้นส่วนต่างๆตกอยู่ในคลอง  ตรวจรอบๆบนถนนที่เกิดเหตุ  ไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น ได้ชนกับตีนราวสะพานที่มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสระบุรี แล้วรถได้เหินพลิกคว่ำ ไปชนราวสะพานอีกฝั่งหนึ่ง ที่มุ่งหน้าเข้ากทม. ทำให้สะพานเสียหายทั้ง 2 สะพาน และรถพ่วงเสียหายทั้งคัน    ซึ่งคาดว่า คนขับที่หาไม่เจอ น่าจะเสียชีวิตติดอยู่ในตัวรถ หรือไม่ก็จมน้ำ จึงได้ติดต่อไปยัง ชุดนักประดาน้ำของปอเต็กตึ้งพระนครศรีอยุธยา ให้มางมค้นหาคนขับรถ งมอยู่สักพักหนึ่ง  แต่ก็ไร้วี่แวว  จึงได้ติดต่อรถเครนคันใหญ่ ให้มาทำการยกรถพ่วงขึ้น ยกพ่วงตัวลูกขึ้นก่อน จากนั้นได้ยกส่วนตัวแม่ขึ้นให้พ้นจากน้ำ และให้ชุดนักประดาน้ำ ค้นหาในรถและใต้น้ำ จนเวลา 20.30 ได้พบร่างของคนขับที่จมอยู่ใต้น้ำ จึงได้ยกรถขึ้นมา พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาอย่างทุลักทุเลนำมาไว้ข้างบน สภาพศพเลอะไปด้วยโคลน เป็นชายอายุประมาณ 30 กว่าปี ไม่มีเอกสารติดตัว จึงไม่รู้เป็นใครและชื่ออะไร

 
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดต่อเจ้าของรถและญาติให้มาดูในที่เกิดเหตุ พร้อมจะนำศพไปชันสูตรพลิกศพที่สถานบันนิติเวชก่อน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง และจะสอบถามผู้เห็นตุการณ์ พร้อมดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง

เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายได้ขับรถพ่วงคันดังกล่าวไปส่งดินลูกรังที่ปทุมธานี และขากลับได้ขับรถพ่วงตามกันมา 3-4 คัน  ผู้ตายได้ขับตามมาคันหลังสุด ขับบนถนนพหลโยธิน  มุ่งหน้ากลับไป อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี พอถึงที่เกิดเหตุ  รถน่าจะเกิดเสียหลักพุ่งชนตีนราวสะพาน และได้เตลิดข้ามไปชนอีกสะพานหนึ่ง ที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ  ทำให้รถตกคลองและคนขับเสียชีวิตดังกล่าว และยังทราบอีกว่า ผู้ตายพึ่งมาขับรถเป็นวันแรก