นายกฯ ชื่นชม! ศักยภาพของคนพิการ ยืนยันรัฐบาลมุ่งมั่นสร้าง “สังคมแห่งโอกาส” ที่เสมอภาคและเท่าเทียม
2 ธ.ค. 2565, 14:41
วันนี้ (2 ธันวาคม 2565) เวลา 10.00 น. ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “วันคนพิการสากล ประจำปี 2565” และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่คนพิการต้นแบบ และหน่วยงาน องค์กร ที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี 2565 โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ผู้แทน UN Resident Coordinator and UNDP Resident Representative คนพิการต้นแบบ อาสาสมัคร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านคนพิการ เข้าร่วมงาน ซึ่งนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้การต้อนรับ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่คนพิการต้นแบบ และหน่วยงาน องค์กร ที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี 2565 จำนวน 135 รางวัล ประกอบด้วย 1) คนพิการต้นแบบ จำนวน 80 รางวัล 2) Global IT Challenge for youth with disabilities จำนวน 8 รางวัล 3) รางวัลสถานีโทรทัศน์ที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสำหรับคนพิการ จำนวน 1 รางวัล 4) องค์กรด้านคนพิการหรือองค์กรอื่นใดที่ให้บริการแก่คนพิการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฯ (มอพ. 2554) ระดับดีมาก จำนวน 3 รางวัล และ 5) องค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ระดับดีเยี่ยม จำนวน 43 รางวัล
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2565 พร้อมแสดงความยินดีกับคนพิการต้นแบบ หน่วยงานองค์กรที่ได้รับรางวัลการสนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี 2565 และขอบคุณสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ผู้แทนองค์กรภาครัฐ เอกชน องค์กรด้านคนพิการ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนที่มีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพของผู้พิการ ส่งเสริม และสนับสนุนให้คนพิการได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในสังคมอย่างเสมอภาค เท่าเทียม พร้อมแสดงความชื่นชมศักยภาพของคนพิการทุกคน และขอบคุณที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งในจิตใจ ที่เป็นพลังสำคัญทำให้ความพิการไม่เป็นอุปสรรคในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสและสร้างความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมให้กับทุกคน พร้อมร่วมเป็นกำลังใจและดูแลทุกคนให้ดีที่สุดเพื่อไปสู่การเป็น “สังคมแห่งโอกาส” โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้มีการปฏิรูปการขึ้นทะเบียนคนพิการ เพื่อให้ทุกคนได้รับสิทธิสวัสดิการและความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีการทบทวนแก้ไขระเบียบฯ ให้สามารถเข้าถึงการขึ้นทะเบียนได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาระบบศูนย์บริการคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ณ โรงพยาบาล ซึ่งได้มีการจัดตั้งนำร่องกับโรงพยาบาลทั่วประเทศอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ตลอดจนการพัฒนาระบบแอปพลิเคชัน “บัตรประจำตัวคนพิการดิจิทัล” ซึ่งผู้พิการทุกคนสามารถยื่นขอรับสิทธิสวัสดิการผ่านบัตรดิจิทัลได้เสมือนบัตรจริง
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาและส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำกว่า 70,000 ราย การปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้กับคนพิการ กว่า 3,000 ราย และริเริ่มโครงการจัดหาครอบครัวอุปการะให้กับคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนพิการได้อยู่กับครอบครัว รวมทั้งยังให้สิทธิคนพิการและผู้ดูแลคนพิการในการรับสัมปทานพื้นที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ รวมกว่า 14,000 ราย และสามารถสร้างรายได้ให้แก่คนพิการมากกว่า 1,661 ล้านบาทต่อปี
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุมเอเปคที่ผ่านมาได้มีการรับรองเอกสาร “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” ซึ่งเป็นข้อริเริ่มของไทย โดยภาครัฐและภาคเอกชนต่างเห็นตรงกันว่าการนำพาประเทศไปสู่ความเจริญจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งรวมไปถึงผู้พิการทุกคนที่จะต้องได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ทั้งในด้านความเท่าเทียม การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการสร้างความเข้มแข็งและขีดความสามารถต่าง ๆ ดังนั้น ในปี 2566 จึงถือว่าเป็นปีที่สำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนงานด้านคนพิการ โดยการสานต่อและขยายผลโครงการเดิมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนงานให้สอดคล้องกับปฏิญญาจาการ์ตาว่าด้วยทศวรรษคนพิการแห่งเอเชีย และแปซิฟิก พ.ศ. 2566-2575 เพื่อมุ่งหวังให้คนพิการได้รับสิทธิสวัสดิการอย่างทั่วถึง
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ในปีนี้รัฐบาลจะมีการประกาศแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2566 - 2570) ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างการมีส่วนร่วมและการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสเพื่อส่งเสริมให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตบนพื้นฐานศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และส่งเสริมความเสมอภาคเป็นธรรมอย่างทั่วถึงเท่าเทียม และสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสิทธิได้อย่างแท้จริง พร้อมขอให้การจัดงานบรรลุผลสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์และมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาในการประกอบภารกิจต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติสืบไป
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีชมนิทรรศการ “วันคนพิการสากล ประจำปี 2565” การจัดแสดงสาธิตการฝึกวิชาชีพ การให้บริการทำบัตรประจำตัวคนพิการแบบดิจิทัล การแสดงความสามารถของคนพิการ เป็นต้น ทั้งนี้ ในช่วงต้น นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการนำเสนอ Code the PWDs Future : เทคโนโลยีแบบไหนที่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการไทย โดยนายปุณพจน์ เอื้อพลิศาน์ คนพิการทางการมองเห็น ปัจจุบันทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่ให้โอกาสคนพิการได้ทำงาน ซึ่งในปัจจุบันคนพิการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พัฒนาไปทำให้คนพิการได้รับโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านการทำงาน การศึกษา และการใช้ชีวิต โดยเทคโนโลยีมากมายทำให้ชีวิตของคนพิการเป็นอิสระมากขึ้น เช่น ผู้พิการตาบอดมีโปรแกรมอ่านหน้าจอ ที่สามารถทำให้คนตาบอดใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนคนปกติ สามารถศึกษาหาความรู้และประกอบอาชีพได้ มีวีลแชร์ไฟฟ้า ที่ช่วยให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวก นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยคนที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หยิบจับ สื่อสาร และประกอบอาชีพได้อย่างภาคภูมิใจ ซึ่งการรออกแบบเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการไทย จะมีส่วนช่วยดึงศักยภาพของผู้พิการออกมาได้เป็นอย่างดี