วันนี้ 18 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 23.56 น.ของวันที่ 17 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พัฒนพล  คนสันต์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาว จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายหนองขาว-พนมทวน เลยโครงการทางด่วนมอเตอร์เวย์ หมู่ 6 บ้านห้วยตลุง ต.หนองขาว อ.ท่าม่วงฯ

 

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.มนตรี  แตงโต ผกก.สภ.หนองขาว ทราบเรื่อง จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ สิ่งที่จะลืมเสียมิได้ ก็คือประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ จุดเกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำจุดรอรับเหตุ ต.หนองขาว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดพยาบาลประจำสำนักงานใหญ่ ได้ออกปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอยู่ เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืน เกรงว่า จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นได้

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักยานยนต์ยี่ห้อ Honda Msx สีเขียว-ดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง สภ. หนองขาว 01-483 ล้มคว่ำในสภาพมีร่องรอยเฉี่ยวชนฟุตบาตอยู่ชิดริมถนน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชาย ตรวจสอบเอกสารบัตรประชาชนทราบชื่อผู้ตาย ชื่อนายวิทย์(นามสมมุติ)(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 5 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี นอนหงายอยู่ในสภาพโคนขาด้านซัายเป็นบาดแผลฉกรรจ์เลือดออกปากออกจมูก ตามร่างการมีบาดแผลรอยถลอกหลายแห่ง นอนหายใจรวยริน สัญญาณชีพอ่อน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงทำการ CPRิ เบื้องต้น เพื่อช่วยเหลือชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ หลังแพทย์ชันสูตรพลิกศพเป็นที่เรียบร้อย

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ และประกอบกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่ขับรถตามหลังรถของผู้ตายมา เล่าว่าขณะที่ขับรถตามหลังมา เห็นว่าผู้ตายขี่รถส่ายไปส่ายมาด้วยความเร็วสูง พอมาถึงที่เกิดเหตุ รถของผู้ตายก็เสียหลังพุ่งชนฟุตบาตเสียงดังตูม พยานที่เห็นเหตุการณ์ จึงเลี้ยวยูเทิร์นรถกลับมาดู ก็พบว่าผู้ตายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพของมูลนิธิฯ เดินทางมาช่วยเหลือ สันนิษฐานว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจาก(รัก)ประมาทขับขี่รถเร็ว แล้วเกิดเสียหลักพุ่งชนฟุตบาตริมถนนจนเสียชีวิตดังกล่าว จึงมอบร่างให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอรุ่งเช้าจะได้นำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายตามระเบียบ ก่อนจะมอบศพให้ญาติที่มาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป