เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เปิดเบื้องหลัง! จับกุม "อธิบดีกรมอุทยานฯ" พบเงินสด 5 ล้านบาท ในห้องทำงาน


27 ธ.ค. 2565, 15:06



เปิดเบื้องหลัง! จับกุม "อธิบดีกรมอุทยานฯ" พบเงินสด 5 ล้านบาท ในห้องทำงาน





จากกรณีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับกุมตัวนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม โดยตำรวจ บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ได้แถลงชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการในเวลา 13.00 น.

ทั้งนี้ มีรายงานเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเดินทางมายังอาคารสืบนาคะเสถียร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ก่อนแสดงหมายค้นเพื่อขอค้นห้องทำงานของนายรัชฎา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดย ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต”

ในการตรวจค้นห้องทำงานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบเงินสดจำนวนประมาณ 4.9  ล้านบาท พร้อมกับซองบรรจุเงินที่มีการจ่าหน้าซองจากหน่วยงานในแต่ละสังกัดอีกจํานวนหลายซอง และเอกสารอีกจํานวน หลายฉบับซึ่งเกี่ยวข้องกับการดําเนินการเรียกรับเงินของนายรัชฎา จากนั้นได้นำตัวนายรัชฏาไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปปป.เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้มีหลักฐานการล่อซื้อเป็นหลักฐานสำคัญ ขณะที่นายรัฏดา ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา ทั้งนี้ผู้ต้องหาหรือจําเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคําพิพากษาถึงที่สุด



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ได้มีผู้ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วยดําเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของนายรัชฎา เนื่องจากมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด โดยกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยเพื่อเป็นการวิ่งเต้นให้รักษาตําแหน่งหัวหน้าหน่วยไว้ให้ โดยหากหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วย ไม่นําเงินมาวิ่งเต้นตําแหน่งกับนายรัชฎาภายหลังจะถูกโยกย้ายออกจากตําแหน่ง ซึ่งการวิ่งเต้นรักษาตําแหน่งนั้น หัวหน้าหน่วยจะต้องนําเงินมามอบให้ที่สํานักงานของนายรัชฎา รายละประมาณ 500,000 - 1,000,000 บาท อีกทั้งยังต้องนําเงินสดมามอบให้เป็นรายเดือนอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ข้าราชการระดับสูงรายดังกล่าว มีพฤติกรรมในการเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในภาคสนามอีกด้วย โดยจะคิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บ 18.5 เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดําเนินงานและค่าใช้สอย,หน่วย ป้องกันไฟป่า 30 เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดําเนินงานและค่าใช้สอย


โดยก่อนหน้า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีประกาศแต่งตั้งนายรัชฎา ให้เป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ แทนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีคนเก่า ที่หมดวาระเนื่องจากดำรงตำแหน่งมาครบ 8 ปี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งที่ลงนามโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กับตัวนายรัชฎาเอง ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสำคัญๆ รวมไปถึงหัวหน้าอุทยานขนาดใหญ่ และอุทยานทางทะเล อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ทั่วประเทศ

โดยตำแหน่งเหล่านั้นว่ากันว่า มีความสัมพันธ์กับอดีตอธิบดีกรมอุทยาน ทั้งการเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 47 และลูกน้องคนสนิททั้งสิ้น เมื่อนายธัญญาหลุดจากตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานไป ทำให้บรรดาลูกน้อง และเพื่อนรักที่ยังอยู่ในตำแหน่งก่อนหน้านี้มีอันเปลี่ยนแปลงไปด้วย ตามมาด้วยข้อมูลข่าวสารต่างๆ นานา ที่ไม่ใคร่จะดีนัก กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ก่อนที่จะมีการจับกุมนายรัชฎาเกิดขึ้น พบว่า มีข้าราชการระดับสูงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนหนึ่ง เป็น 1 ในบรรดาเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานที่เข้าร่วมอวยพรด้วย โดยเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นผู้ที่ทำหนังสือร้องเรียนกับ ป.ป.ช.เรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้นในกรมอุทยานช่วงเวลานี้ด้วย






Recommend News

















©2018 ONBNEWS. All rights reserved.