สสจ.กาญจน์ จัดการอบรมพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารสุขภาพจังหวัดกาญจนบุรี ปี 2566
27 ธ.ค. 2565, 16:37
กาญจนบุรี - สสจ.กาญจน์ จัดการอบรมพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารสุขภาพจังหวัดกาญจนบุรี ปี 2566 เชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นในช่วงฤดูหนาวก่อนเทศกาลปีใหม่ 2566 ฟรี เมาต้องไม่ขับเด็ดขาด
วันนี้ 27 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมสุรพงษ์ ตันธนศรีกุล นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในการอบรมพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารสุขภาพจังหวัดกาญจนบุรี ปี 2566 พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ประเด็น แนะนำประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันโรคในช่วงฤดูหนาว การรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จังหวัดกาญจนบุรี และการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566
นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร นโยบายและการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนละพัฒนาภาคีเครือข่ายประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการบริหารจัดการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพที่ถูกต้อง ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เพื่อการมีสุขภาพที่ดี จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้การสื่อสารประชาสัมพันธ์ในการสร้างความรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ความตระหนัก ใส่ใจสุขภาพ จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ดี และเพื่อให้การประชาสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ให้รับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว และแก้ไขความเข้าใจผิด โดยใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวาง โดยมุ่งหวังให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพที่ถูกต้อง และมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนตระหนักและใส่ใจการดูแลสุขภาพ และสร้างความร่วมมืออันดีระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ประชาชน และชุมชน
นายแพทย์ประวัติ กล่าวต่อไปว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีจัดรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2565 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ในช่วงฤดูหนาวก่อนเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น และขอย้ำว่าการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น ยังมีความจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง เพราะภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลา โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และเด็กเล็ก 6 เดือน ถึง 4 ปี วัคซีนจะช่วยลดการป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้ รวมถึงยังจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ด้วย สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ที่โรงพยาบาลหรือ รพ.สต.ใกล้บ้าน
ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ปรับการดำเนินงานให้บริการเป็นเชิงรุกไปฉีดวัคซีนให้ที่บ้านสำหรับกลุ่มผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง จัดบริการฉีดวัคซีนแบบ Walk in ตลอด 24 ชั่วโมง ในโรงพยาบาลทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำรวจการฉีดวัคซีนของประชาชนในคลินิกโรคเรื้อรังใน รพ./ รพ.สต.ทั้งหมด หากพบว่ายังไม่ได้รับวัคซีน จัดบริการฉีดวัคซีนให้ทันที โดยขอให้มารับวัคซีนได้ตามความสมัครใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อเร่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวก่อนเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่อาจมีการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งติดตามผลการดําเนินงานและเร่งรัดรณรงค์การฉีดวัคซีนเข็ม 1 ในกลุ่ม 608 และเข็มกระตุ้นในประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจัดบริการฉีดวัคซีนให้บุคคลที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่สัญชาติไทยทุกเข็ม แบบเชิงรับในโรงพยาบาลและแบบเชิงรุกใน รพ.สต. หรือนอกสถานพยาบาล
นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าปีนี้อุณหภูมิจะลดลงมากกว่าปีที่ผ่านมา และจะหนาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ถือได้ว่าอาจหนาวยาวนานกว่าปีก่อน ซึ่งอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และเชื้อโรคบางชนิดอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรคจึงได้ออกประกาศเตือนเรื่องการป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่อาจเกิดในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2565 โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ (โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ) 2.โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ (โรคอุจจาระร่วง) 3.โรคติดต่อที่สำคัญอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาว (โรคหัด) 4.ภัยสุขภาพ (การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว) หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นหรือน้ำมันทาผิว หลังจากเช็ดตัวหมาดๆ ในกรณีที่มีปัญหาริมฝีปากแตก ควรทาด้วยลิปสติกมัน และไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อยๆ
นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 กำลังจะมาถึง ประกอบกับประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนไทยโดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว ทำให้มีการใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ได้กลับบ้านอยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่นและมีความสุข จึงขอให้ระมัดระวังสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง โดยยังต้องเข้มงวดเรื่องมาตรการป้องกันเนื่องจากยังคงพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในหลายพื้นที่ หากต้องอยู่ในสถานที่มีคนหมู่มากขอให้สวมหน้ากากอนามัย
สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ย้ำ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เดินทางปลอดภัย ป้องกันความสูญเสีย ลดอุบัติเหตุเจ็บตาย เตรียมพร้อมบุคลากร-หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินรองรับผู้ป่วยจากอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากเมาแล้วขับการเสียชีวิตจะสูงกว่าที่เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 มากกว่า ขออวยพรให้ทุกคนปลอดภัยผ่านพ้นปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดี./