เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 12 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร   ได้เกิดเหตุการณ์ผู้ปกครองและนักเรียน กว่า 50 คน รวบตัวขับไล่ ผอ.โรงเรียน เนื่องจากไม่พอใจในการบริหารโรงเรียน จึงรุดไปตรวจสอบ

โดยโรงเรียนดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนสายท่าเสม็ด-สถานีรถไฟสะพลี เขตพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร  ภายในโรงเรียนบริเวณอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างตัวอาคารเรียนกับโรงอาหาร ซึ่งได้จัดเป็นพื้นที่ประชุมผู้ปกครอง โดยมี น.ส.สุขุมาพร ขาวม่วง ผอ.โรงเรียน พร้อมด้วย ครู อีก 4 ท่าน นั่งประกบข้างซ้ายขวา อยู่ด้านหน้า และมีผู้ปกครอง นั่งเรียงเป็นแถว บนเก้าอี้ที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ กว่า 50 คน

บรรยากาศเต็มไปด้วยความดุเดือด โดย ผู้ปกครองนักเรียน ต่างสับเปลี่ยนกันลุกขึ้นทวงถามปัญหาต่างๆ ไม่ว่ากรณีที่บุตรหลานของตนเอง กลับบ้านหลังเลิกเรียน จะอยู่ในสภาพหิวโซ ขอข้าวกิน ซึ่งเมื่อสอบถามบุตรหลานแล้ว ทราบว่า อาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดให้ ไม่เพียงพอ และอาหารไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอันเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ กรณีที่โรงเรียนไม่เปิดเผยเงินที่ได้จากการเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมัน ในแต่ละเดือนไปอยู่ที่ไหน ประเด็นเรื่องความเดือดร้อนของนักเรียนที่น้ำภายในโรงเรียนไม่ไหลมานานกว่า 2 เดือน อีกประเด็นการกนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาขายให้นักเรียน มันมีประโยชน์ตรงไหน มีนักเรียนรับประทานทุกวัน จนต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว 1 ราย และประเด็นที่ ผอ.โรงเรียน มักมาโรงเรียนสาย กลับเร็ว ไม่สนใจและไม่เต็มใจที่จะบริหารโรงเรียน

ซึ่งทาง ผอ.โรงเรียน พยายามจะโยนภาระให้ทางครู ทั้ง 4 ท่าน ได้ชี้แจง โดยอ้างว่าได้มอบหมายหน้าที่ไปแล้ว และตนเองก็ไม่เคยถือเงินทุกบาท และการเบิกจ่ายก็มีหลักฐานทุกอย่าง วอนขอให้ผู้ปกครองเห็นใจ โดยเฉพาะเรื่องที่ตนเองมาสายกลับเร็ว ก็เป็นเพราะต้องดูแลมารดาที่ป่วย จึงต้องเป็นภาระที่จะต้องคอยดูแลอีกทั้งไม่กล้าปล่อยและไม่ไว้ใจใคร ซึ่งเรื่องนี้จะมาเช่าบ้านใกล้โรงเรียนแต่มารดาไม่ยอมมา

หลังจากที่ ผอ.รร.พูดเพียงเท่านี้ ทำให้ผู้ปกครองต่างไม่พอใจ ไม่สมกับการเป็นผู้บริหาร ไม่สามารถบริหารเวลาของตนเอง ไม่รับผิดชอบในความเป็นผู้บริหารบุคลากร แต่กลับโยน อ้างไปต่างๆนาๆ และเรียกร้องขอให้ทาง ผอ.ชี้แจงด้วยตนเอง เพราะ ทุกอย่างต้องผ่าน ผู้บริหาร ถึงผู้ใต้บังคับ บัญชา จึงจะนำไปปฏิบัติตามคำสั่ง

ทาง ผอ.รร.จึงจำต้องแจกแจงประเด็นต่างๆเป็นข้อๆ โดยให้เหตุการที่มาสายกลับเร็ว ส่วนเรื่องเงินจากการเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมันที่สวนของโรงเรียนนั้น ยอมรับว่า เงินที่ได้จากการขาย ในแต่ละเดือนน้อย ได้ไม่กี่พัน และเงินที่ขายได้ก็จะนำเข้าบัญชีส่วนหนึ่ง แยกมาไว้เป็นกองกลางเพื่อใช้จ่ายและซื้อสิ่งของไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยม ส่วนกรณีอาหารกลางวันนั้น ตนเองก็พยายามปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเด็ก ประกอบกับเด็กบางคน จะห่วงเล่น ครูที่ดูแลเรื่องอาหารก็จะตักให้เด็กแต่ละคน มากบางน้อยบาง จึงทำให้เด็กบางคนกินไม่ทัน กินไม่อิ่ม ส่วนน้ำที่ไม่ไหลนั้น เป็นเพราะเครื่องซัมเมิร์ทเสีย ต้องซ่อม แต่โรงเรียน ยังไม่มีเงิน แต่พยายามจะหาเงินมาซ่อมแก้ไขให้เร็วที่สุด ซึ่งตนเองขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ผอ.รร.ได้ชี้แจง ผู้ปกครองได้นำบิลการขายปาล์มน้ำมัน ซึ่งไปขอมาจากทางลานปาล์มที่รับซื้อผลปาล์มของโรงเรียน ออกมายืนยัน ในแต่ละเดือน สามารถขายได้ครึ่งหมื่นจนถึงเกือบหมื่นบาท และผ่านมานับปี กลับมีเงินในบัญชีธนาคารเพียงไม่กี่พันบาท พร้อมโห่ตะโกน ขอร้องให้ ผอ.รร.ย้าย ออกจากพื้นที่เถิด เพราะแม้การชี้แจง แต่ละเรื่องไม่มีความชัดเจน อ้างและพยายามโยนภาระให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา วันนี้ผู้ปกครองทุกคน ขอวิงวอนให้ ผอ.รร.ขอย้ายตนเอง ไม่ต้องขอพิจารณาตนเอง อยู่เลย เพราะหากรอพิจารณาตนเอง พวกตนก็จะขอย้ายลูกทั้งหมด ไปอยู่โรงเรียนอื่น ยอมให้ปิดโรงเรียนดีกว่า มีผู้บริหารที่ไม่ให้ความสำคัญกับโรงเรียนและนักเรียนตอลดบุคลากรของโรงเรียน

ผู้สื่อข่าวรายยังรายงานอีกว่า ระหว่างที่ผู้ปกครองกำลังต่อว่า ผอ.รร.อยู่ ได้มีกลุ่มนักเรียน กว่า 20 คน ได้นำป้ายซึ่งเขียนด้วยลายมือตนเอง มีใจความระบุบนกระดาษว่า “นักเรียน โรงเรียนนี้ ไม่ต้องการ ผอ.แบบคุณ” “ผอ.ดีแต่สั่ง” “ออกไปตะสาว ไม่ต้องการ ผอ.แบบนี้” “ดีแต่ด่า ดีแต่สั่ง แบบนี้ อย่าเป็นเลย ผอ.!โรงเรียนไม่ต้องการ””ที่นี้ไม่ต้อนรับ ผอ.แบบนี้” เป็นต้น ต่างชูป้ายเดินมาในที่ประชุม ก่อนเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมตะโกนขับไล่ ในขณะเดียวกันทาง ผู้ปกครอง ก็ร่วมตะโกนขับไล่ด้วย และยืนยันว่า หากไม่ย้าย พรุ่งนี้ นักเรียนทุกคนก็ไม่มาเรียน พร้อมจะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ ผอ.ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ต่อไป