จากกรณี น.ส.ศศิธร ชูจิต อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่144 หมู่ที่ 6 ต.ตาเนอะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา อ้างถูกคนร้ายวางยาลักลูกน้อยวัยขวบเศษ ที่หน้าห้าง แม็คโค เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 10 มิถุนายน และขณะสอบสวนผู้เสียหายเห็นเฟซบุ๊คประกาศตามหาลูกเลย โทรศัพท์ประสาน อ้าง ว่าเป็นแม่ของเด็กและได้รับเด็กไปที่ จ.ตรังเพราะได้ทำการตกลงกับผู้เสียหายแล้ว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า  ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้ประสานหญิงสาวรายดังกล่าวที่ได้โทรศัพท์ มาบอกว่าเอาลูกกลับคืน จนทราบชื่อ คือ น.ส.อิงอร กลิ่นชื่น อายุ 18 ปี ชาว จ.ตรัง ที่เบื้องต้นอ้างว่าพาเด็กไป จึงได้ประสานไปยัง สภ.กันตัง จ.ตรัง ให้ส่งตัว น.ส.อิงอร กลิ่นชื่น พร้อมเด็ก เดินทางมายัง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ในขณะที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ น.ส.ศศิธร ชูจิต พร้อมสามี เพิ่มเติม โดยน.ส.ศศิธร ยอมรับสารภาพว่า เด็กชายคนดังกล่าว ไม่ใช่บุตรชายที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้ตั้งครรภ์แต่แท้งลูก ด้วยความกลัวครอบครัวสามีเสียใจและผิดหวัง และเมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด ได้รู้จักกับแม่ของเด็กที่ประสงค์จะหาผู้เลี้ยงดูบุตรเนื่องจากมีปัญหาครอบครัว จึงสวมรอยว่าเด็กเป็นลูกของตน นำมาให้บนเตียงที่โรงพยาบาลขณะที่แจ้งทางบ้านสามีว่าตนไปคลอดลูก

 

ต่อมา เวลา 21.23 น. น.ส.อิงอร กลิ่นชื่น อายุ 18 ปี ชาว จ.ตรัง แม่ของเด็ก ได้เดินทางมาถึง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมบุตรชาย มาพบพนักงานสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมรับฟังด้วย โดยน.ส.อิงอร ยืนยันว่า เรื่องป้ายยา ไม่เป็นความจริง และได้มีการนัดแนะมาดูบุตรชาย แต่ตนเห็นแล้วจึงอยากได้ลูกคืนจึงขอรับตัวกลับไป จน น.ส.ศศิธร สร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่งการที่ตนเองเดินทางมา สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีนั้น เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าเด็กคนดังกล่าวเป็นบุตรของตนเองพร้อมนำใบสูติบัตรแจ้งเกิดและหลักฐาน การคุยผ่านแอพพลิเคชั่น LINE มาแสดงต่อหน้าเจ้าหน้าด้วย

 

 

ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ด้าน พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ชุดสืบสวนได้เร่งคลี่คลายคดี และล่าสุด น.ส.อิงอร ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนพร้อมยืนยันว่าเป็นบุตรของตนเอง พร้อมแสดงหลักฐานต่างๆ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน จะนำบุคคลทั้ง 5 คน ไปตรวจดีเอ็นเอ ตามคำสั่ง ของ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดที่สุด แม้ว่า แม่ทั้งคนจะให้การไปทางเดียวกันว่าเป็ขบุตรของใคร พร้อมสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป และหากเป็นไปตามข่าวข้างต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.ศศิธร ในข้อหาแจ้งความเท็จ