เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 ก.พ.66 นายสุพจน์  พุ่มพร้อมจิตร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เดินทางมายังสำนักงานเทศบาลตำบลทะเลทรัพย์ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนและเอกสารหลักฐานต่อนายธนวัฒน์  โพธิสาร นายกเทศมนตรีตำบลทะเลทรัพย์ ให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานโดยมิชอบของข้าราชการคนหนึ่ง ที่ใช้อำนาจทางกฎหมายรังแกชาวบ้านและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

นายสุพจน์  กล่าวว่า “วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนข้าราชการคนหนึ่ง ที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมกับเป็นข้าราชการไม่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับชาวบ้านสร้างแต่ความแตกแยก ยุยงส่งเสริม ให้พระรบทะเลาะกับชาวบ้าน และให้ชาวบ้านกับชาวบ้านทะเลาะกัน มีพฤติกรรมแจ้งความอันเป็นเท็จหลายเรื่อง เบียดบังเวลาราชการ ซึ่งในอดีตขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีและพ้นวาระไปแล้วนั้น  ข้าราชการคนดังกล่าวได้เอาเวลาราชการไปซื้อขายทุเรียน ซึ่งมีพยานหลักฐานของชาวบ้านว่าไปทำอะไรมาบ้าง สร้างตนเองให้ข้าราชการคนอื่นๆเกรงกลัว จนไม่สามารถทำงานทำการกัน

นายสุพจน์  กล่าวอีกว่า  สำหรับวันนี้ได้นำเรื่องให้นายกฯทะเลทรัพย์ทราบนั้นเบื้องต้นมีด้วยกัน 2 ประเด็น 1.ข้าราชการคนดังกล่าวแจ้งใบลาอันเป็นเท็จให้กับผู้บังคับบัญชา ซึ่งถือว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง เนื่องจากว่าเมื่อวันที่ 18 มกราคม มีหมายศาลเรียกให้ข้าราชการจำนวน 3 คน ในเทศบาลตำบลทะเลทรัพย์ไปเป็นพยานโจท์ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤมิชอบภาค 8  โดยมีข้าราชการคนที่ถูกตนร้องเรียนเขียนใบลากับนายกเทศมนตรีว่าขอลาป่วย แต่ดันไปปรากฏตัวอยู่ที่ศาลอาญาในวันที่ 18 มกราคม

ประเด็นที่ 2. ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลทรัพย์ ข้าราชการคนนี้ได้ขออนุญาติสร้างบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งในครั้งแรกขอสร้างเป็นอาคาร 1 ชั้น บนเนื้อที่ 24 ตารางวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เขียนใบอนุญาติให้ข้าราชการคนนี้ไปเนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดออกใบอนุญาติเพราะไม่เกิน 150 ตารางเมตร แต่หลังจากขออนุญาตไปแล้วนั้นข้าราชการคนดังกล่าวไม่ได้สร้างบ้านพักเลย  ขออนุญาติก่อสร้างเพียง 3 วัน ของวันที่ 22 ธันวาคม 2557 แต่วันที่ 25 ธันวาคม ปรากฏว่าข้าราชการคนดังกล่าวมีบ้านเลขที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไปดำเนินการขอเลขที่บ้านอันเป็นเท็จต่ออำเภอปะทิวก็ยังไม่มีการสร้างบ้าน

อดีตนายกเทศบาลตำบลทะเลทรัพย์  กล่าวต่ออีกว่า จนกระทั่งผ่านมา 2 ปี ข้าราชการคนดังกล่าวได้ขออนุญาติสร้างอาคารอีกครั้งหนึ่ง และได้เริ่มก่อสร้างแต่ยังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งการก่อสร้างครั้งนี้ไม่ตามแบบแปลน ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ตนจึงได้เกษียณหนังสือไม่อนุญาต เพื่อให้แก้ไขให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับก่อน  หลังจากนั้น 1 ปี ตนจึงถูกให้พักการปฏิบัติงานในตำแหน่งนายกเทศมนตรี ซึ่งปัจจุบันก็เขายังไม่ขออนุญาตก่อสร้างอาคารหลังนี้เลย แต่กลับมีบ้านเลขที่และอยู่อาศัยจนกระทั่งทุกวันนี้  ซ้ำร้ายไปกว่านั้นได้ก่อสร้างรุกเล้าเข้าไปในพื้นที่ชาวบ้านด้วย ซึ่งมีคำสั่งศาลให้รื้อถอนแล้ว

ทางด้านนายธนวัฒน์  โพธิสาร นายกเทศมนตรีตำบลทะเลทรัพย์  คนปัจจุบัน  กล่าวหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า “ตนเป็นคนหนึ่งที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน หากพี่น้องเดือดร้อนว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน  คนถูกร้องเรียนไม่ใช่หน้าที่ของนายกเทสมนตรี แต่ต้องเข้าขบวนการอีกทีหนึ่ง”

ส่วนนางอุสนีย์  กลอยสวาท อายุ 58 ปี ชาวบ้านร่วมร้องเรียน   กล่าวว่า “ตนเห็นข้าราชการทำตัวไม่เป็นกลาง คนรู้กฎหมายแต่อย่าเอากฎหมายมารังแกชาวบ้าน ตอนนี้ในองค์กรแตกแยกกันหมด  แต่ก่อนอยู่กันแบบสามัคคีกลมเกลียว แต่พอมีคนรู้กฎหมายมา ยุคนโน่นที ยุคนนี้ที จึงมีความแตกแยกซึ่งเราไม่อยากเห็นภาพนั้น”

นอกจากนั้นชาวบ้านยังเล่าอีกว่า ข้าราชการคนดังกล่าวยังสร้างความแตกแยกพูดลักษณะยุแหย่ให้ชาวบ้านกับพระมีความขัดแย้งกันด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ได้รับการชี้แจงจากข้าราชการคนดังกล่าวแต่อย่างใด จากคำกล่าวอ้างของผู้ร้องเรียนนั้นเท็จจริงประการใด  หลังจากนั้นกลุ่มผู้ร้องเรียนได้นำผู้สื่อข่าวไปยังบ้านพักของข้าราชการคนที่ถูกร้องเรียน ซึ่งได้เห็นว่าด้านหลังบ้านติดกับรั้วลวดหนามเป็นที่ดินของชาวบ้านมีร่องรอยถูกรื้อถอนแล้วบางส่วนที่มีการรุกล้ำจริง