เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ชาวบ้านเอือมระอาแก๊งโจ๋ขาสั้น ก่อเหตุวิวาท โยนประทัดเสียงดัง


17 ก.พ. 2566, 19:06



ชาวบ้านเอือมระอาแก๊งโจ๋ขาสั้น ก่อเหตุวิวาท โยนประทัดเสียงดัง




ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนถึงความเดือดร้อน จากการใช้ชีวิตประจำวัน ทนทุกข์ทรมาน มานานถึง 4 เดือน จากพฤติการณ์ ของเด็กวัยรุ่นเด็กนักเรียนใกล้กับหมู่บ้าน เข้ามาก่อกวนพากันขับขี่รถจักรยานยนต์ ก่อกวนในช่วงกลางวัน และที่เดือดร้อนหนักคือเข้ามาก่อกวน โยนปะทัดปิงปองลูกใหญ่ แม้แต่พลุใหญ่เสียงดัง ๆ ที่ใช้จุดในงานฌาปนกิจศพ ก็นำมาจุดในยามวิกาล ช่วงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง ผู้สูงอายุ และคนป่วย ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลัวได้รับอันตรายและนอนไม่หลับ

วันนี้(17 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านโตงน้อย หมู่ 3 ต.ขอนแตก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้พบกับชาวบ้าน ที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้กับ บริเวณที่เกิดเหตุ และใกล้กับโรงเรียนโตงน้อย ที่แก๊งเด็กนักเรียนขาสั้นมัธยม เข้ามาก่อกวน พากันปะทัดยังและจุดพลุเสียงดัง ก่อความลำคาญมานาน ถึง 4 เดือน คุณตาบัวลา พุ่มมะลิ อายุ 76 ปี และ คุณป้าทองดาว แสงงาม อดีตผู้ใหญ่บ้านโตงน้อย ได้พาผู้สื่อข่าว ดูตามถนนคอนกรีตหน้าบ้าน และติดกับรั้วโรงเรียนบ้านโต้งน้อย ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3

คุณตาบัวลา บอกว่า เป็นทุกข์ กับเด็กนักเรียนแก๊งนี้ ไม่รู้ว่าเป็นลูกหลานใคร เป็นเด็กนอกหมู่บ้าน จะรวมตัวกันเข้ามาก่อกวนทะเลาะกับเด็กวัยรุ่นนักเรียนด้วยกันในหมู่บ้าน แต่ที่ทุกข์มาก กลัวว่าจะได้รับอันตรายเพราะตนเองก็อายุมากแล้ว เพราะเด็กมักจะพากันเข้ามาปาปะทัดยักษ์ และจุดพลุ ลูกใหญ่ๆเสียงดังแบบใช้จุดในงานศพ ก็นำมาจุดแล้วโยนหน้าบ้านเสียงดังมาก ในช่วงยามวิกาล ตีหนึ่งตีสอง หลังคาสังกะสียังสะเทือน คนสูงอายุ คนป่วย ก็มีหลายคนด้วยกัน เขาลำบากและเดือดร้อนมาก นอนไม่หลับ ก่อกวนมานาน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ช่วงงานลอยกระทง แต่ก็คิดว่า เป็นงานเทศกาล พอนานเข้าก็ว่าไม่ใช่แล้ว จนกระทั่งตำรวจ สภ.สังขะมาไล่ จับ เด็กที่ก่อเหตุ พากันทิ้งรถจักรยานยนต์ ตำรวจยึดไป เมื่อวันที่ 9 ก.พ.66 ที่ผ่านมา เงียบไปไม่กี่วัน แต่คาดว่าจะกลับมาก่อเหตุอีกวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสายตรวจมาตรวจแลจับกุ อย่างต่อเนื่องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ แบบนี้อีก




คุณลุงวิน สิงห์ทอง อายุ 58 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ หมอได้ผ่าตัดหน้าท้อง สอดยางทั้งปัสสาวะ และอุจจาระ นั่งรถเข่น อยู่ในบ้าน บอกว่า นอนไม่หลับจริง เพราะกลัว เสียงปะทัดเสียงพลุ เสียงดังมากยามดึกๆแต่ก็ทน ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกๆในบ้านก็กลัวและกังวล สงสารพ่อกลัวว่าพ่อจะเป็นอะไรไป เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ

ด้านคุณลุงสุพี แสงงาม อายุ 73 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านโตงน้อย ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ และเคยน็อคไปเกือบเสียชีวิตมาแล้ว คุณหมอ ช่วยเหลือไว้ได้ ได้ผ่าตัดใส่เครื่องไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจ บอกว่า กลัวมาก เพราะเสียงดังมาก มันจะกระทบกับเครื่องไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจ ทำให้ตัวสั่น เพราะเด็กมาจุกประทัดห่างตัวบ้านประมาณ 100 เมตร ก่อกวนมาต่อเนื่องเป็นทุกข์มากขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอย่างเอาจริงเอาจังด้วย



นางทองดาว แสงงาม อดีตผู้ใหญ่บ้านโตงน้อย เช่นกัน บอกผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าอมทุกข์เคร่งเครียด ว่าพวกเด็กๆแก๊งนี้จะมาจุดปะทัดเสียงดังมากช่วงตีสองตีสาม มาจุดแถวหน้าบ้าน จุดมาตั้งแต่เดือน พ.ย.65 มาถึงปัจจุบัน แม้แต่ในโรงเรียน ก็ยังโยนเข้าไป ภรรยาของตำรวจในหมู่บ้านแกก้เป็นทุกข์เพราะเป็นโรคหัวใจสามีตนเองก็ใส่เครื่องไฟฟ้ากระตุกหัวใจ ใส่มาจากโรงพยาบาล ที่โคราช แกรับเสียงดังไม่ได้ถ้าเครื่องตาย แกก็ตายไปด้วย อยากว่าถ้าเป็นลูกหลานในหมู่บ้านก็ให้ไปก่อกวนที่อื่น ถ้าเป็นเด็กที่อื่น อย่ามาทำในหมู่บ้าน คนเฒ่าคนแก่อยู่ไม่ได้หรอก ถ้าทำแบบนี้ ก่อกวนกันแทบทุกวัน ไม่รู้ว่าเป็นเด็กหมู่บ้านไหน เคยออกไปไล่ พวกเขาก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ แบ่งเป็นสามกลุ่มแยกย้ายกันก่อกวน ไม่เคยแจ้งตำรวจ บอกแต่ผู้ใหญ่บ้านให้หาชุด ชรบ.ไปเดินตรวจตราหน่อย แกเป็นผู้หญิงก็ไม่กล้าออกมาไล่กลัวมันทำอันตรายเอา แกก็บอกว่า ให้ออกไปดูว่าเป็นเด็กกลุ่มไหน ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร ฉันทนไม่ได้แล้วฉันจะให้ลูกชายพาไปในตัวเมืองสุรินทร์ ไปบอกผู้หลักผู้ใหย่ให้แจ้งหน่วยงานต่างๆมาตรวจสอบมันไม่ไหวจริงๆ ไม่ รู้ว่าคนในพื้นที่ทำไม่ไหวหรือไม่ทำ ไม่รู้ว่าเด็กกลุ่มนี้เคยมีปัญหากับเด็กในหมู่บ้านหรือเปล่า แต่เมื่อก่อนนี้มีการก่อเหตุวิวาทกัน ไม่ไกลจากนี้มากนัก แต่ก้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมา มาตรวจอย่างต่อเนื่องพร้อมจับกุมไปอบรมสั่งสอนจะได้สร้างทัศนคติที่ดีไม่ก่อความลำคราญสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในหมู่บ้านอีก

แหล่งข่าวในหมู่บ้าน บอกว่าแก๊งเด็กรวมกลุ่มก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานาน 4 เดือนเป็นเด็กเรียน ชั้น ม.2 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ลูกชายหัวคะแนน นักการเมืองคนหนึ่งในพื้นที่ ชาวบ้านรู้กันดี ไม่มีใครกล้าบอกชื่อ ย้ายไปเรียนโน่นโรงเรียนนี้ เพราะเกเร มีบ่อยครั้งไม่พอใจคุณครูก็ชวนเพื่อนหนีเรียนยกห้อง คุณครูทำอะไรไม่ได้ เพราะกลัวบารมีของผู้เป็นพ่อ เด็กกลุ่มนี้ยังเคยทำธงมาปักเพื่อเขตพื้นที่หมู่บ้านเพื่อแยกหมู่บ้านแต่ได้ถอดถอนออกไปแล้ว



คำที่เกี่ยวข้อง : #สุรินทร์  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.