เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เหลือเชื่อ ! หลังพิธีเซ่นปะกำช้างป่าอันศักดิ์สิทธิ์ มีช้างป่าเข้ามาในป่าชายแดนเพิ่มเป็น 9 ตัว แถมไม่ดุร้ายทำลายพืชเกษตรและกระท่อมชาวบ้าน


20 ก.พ. 2566, 10:03



เหลือเชื่อ ! หลังพิธีเซ่นปะกำช้างป่าอันศักดิ์สิทธิ์ มีช้างป่าเข้ามาในป่าชายแดนเพิ่มเป็น 9 ตัว แถมไม่ดุร้ายทำลายพืชเกษตรและกระท่อมชาวบ้าน




วันนี้ (20 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากพิธีเซ่นปะกำช้างป่าอันศักดิ์สิทธิ์ โดย 8 หมอช้างชื่อดังเมืองสุรินทร์ นำโดย นายชื่น แสนดี อายุ 92 ปี และนายเหิร จงใจงาม อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นหมอช้างอาวุโส จากหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ร่วม จนท.อาสาสมัครผลักดันช้างป่า และชาวบ้านในพื้นที่ ตามคำเชิญของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เดชชาติ นิยมตรง หรือ ดร.บอมบ์ คนสุรินทร์เหลา ที่ติดตามให้ความสำคัญการเข้ามาของช้างป่า และการทำหน้าที่อาสาสมัครผลักดันช้างป่า พื้นที่รอยต่อป่าตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก กับชุมชนตะเข็บชายแดนอีสานใต้ จ.สุรินทร์ ที่ชายป่า บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจพี่น้องอาสาสมัครผลักดันช้างป่า รวมทั้งชาวบ้าน เกษตรกรที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายแดน ให้มีความสงบสุข ร่มเย็น ปลอดภัย และอยู่ร่วมกับช้างป่าอย่างเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อย่างสันติสุข และเพื่อเป็นการสื่อสารตามวามเชื่อไปถึงช้างป่าอย่าได้ดุร้ายและทำลายชีวิตและทรัพย์สินชาวบ้าน เมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 ที่ผ่านมา
 




หลังจากนั้น 3 วัน ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก ดร.บอมบ์ เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พร้อมรับฟังข้อมูลอัพเดท การเพิ่มขึ้นของจำนวนช้างป่า จากเดิมที่มีในพื้นที่จำนวน 4 ตัว และวันนี้ได้รับรายงานว่า มีการเข้ามาเพิ่มอีก 5 ตัว รวมมีช้างป่าในพื้นที่รอยต่อป่าพนมดงรัก ป่าหนองคันนาใน และพื้นที่เกษตรกรรม จำนวน 9 ตัว ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีประสาทโบราณที่มีสระน้ำโบราณอยู่เช่นประสาทตาเมือนทม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาเมือนตู๊จ

ซึ่งเป็นที่น่าแปลกมากและน่าสนใจว่า ก่อนการทำพิธีเซ่นปะกำ ช้างป่าที่เข้ามาในพื้นที่ จะเข้าทำลายพืชสวนเกษตร รวมทั้งเพิงพักของชาวบ้าน แต่เป็นเรื่องแปลกและน่าอัศจรรย์ใจว่า หลังจาก “พิธีเซ่นปะกำ” เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีจำนวนช้างป่าเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่าความสัมพันธ์คนกับช้างป่า ที่หวังพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาหารร่วมกัน มีความเป็นมิตรเพิ่มมากขึ้น ชาวบ้านหลายคนต่างก็คิดไปต่างๆนานาว่าน่าจะเกิดจากการทำพิธีเส้นปะกำที่ผ่านมาแน่นอน แต่ก็มีชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งได้บอกว่า น่าจะเป็นการช่วยกันดูแลระหว่างคนกับช้างและไม่มีการกระทำรุนแรงกับช้างก็เลยไม่ดุร้าย



ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เดชชาติ นิยมตรง หรือ ดร.บอมบ์ คนสุรินทร์เหลา นักวิชาการวางแผนภาคและเมือง ได้ให้มุมมองความเชื่อ ความศรัทธาส่วนบุคคลว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง แถมยังมีความสำคัญเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ น่าจะเป็นตัวชี้วัดถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ และความเป็นมงคล ที่จะนำสิ่งดีๆเข้ามาในพื้นที่ ที่อาจเป็นการยกระดับการพัฒนาในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้

นายวีรชัย แขกรัมย์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครผลักดันช้างป่าประจำจังหวัดสุรินทร์ (เสิ้อลาย)ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ช้างป่าที่เข้ามาในเขตพื้นที่จะมีอาการดุร้ายทำลายข้าวของต่างๆแม้กระทั่งพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน หลังจากทำพิธีเส้นปะกำช้างป่า ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะว่าช้างรู้สึกว่าจะเป็นมิตรกับชาวบ้าน อยู่ร่วมกับคนแบบไม่ดุร้าย แล้วก็ข้าวของพืชไร่ก็ลดความเสียหายลง ตอนนี้ช้างป่าจากแต่ก่อนมีแค่ 4 ตัวตอนนี้เพิ่มมาอีก 5 ตัวรวมกันเป็น 9 ตัวแล้ว มีเพิ่มมาอีก สำหรับทีมอาสาสมัคร ก็ยังคงทำหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อชาวบ้านและพ่อแม่พี่น้องในเขตพื้นที่






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.