เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เสียงจากชายแดนใต้:คนไทยทุกศาสนาโชคดีที่สุดแล้วที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย เพราะเปิดกว้างและให้สิทธิเสรีภาพในทุกด้าน


21 ก.พ. 2566, 09:27



เสียงจากชายแดนใต้:คนไทยทุกศาสนาโชคดีที่สุดแล้วที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย เพราะเปิดกว้างและให้สิทธิเสรีภาพในทุกด้าน




พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในมุมมองของหลายๆคนที่แสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางต่างๆ ในลักษณะประชาชนถูกริดรอนสิทธิ ถูกจำกัดสิทธิ หรือ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมมักปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถแสดงออกได้ตามสิทธิที่พึงมีของตนแต่ในความคิดเห็นของผู้เป็นเสาหลักทางศาสนาของศาสนาพุทธและอิสลามที่จังหวัดนราธิวาส  ได้เปิดเผยข้อมูลอีกด้านที่เกิดขึ้นจากการพบเห็นและสัมผัสมาด้วยตนเองจากประสบการณ์จริงของทั้ง 2ท่าน

พระโสภณคุณาธาร เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คนไทยทุกศาสนามีเสรีภาพและความเสมอภาคภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเปิดกว้างให้ทุกคนได้รับสิทธิในการดำรงชีวิตและแสดงออกอย่างเหมาะสมหากเป็นการกระทำที่ไม่ผิดกฎหมาย รวมทั้งไม่กระทบหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นและสังคม

 

 



สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนที่มีผู้นับถือศาสนาอย่างหลากหลาย โดยวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุขโดยไม่มีความขัดแย้งทางศาสนาผู้ใดอยากจะประกอบศาสนกิจ หรือทำกิจกรรมอะไรก็สามารถทำได้อย่างเสรี ประชาชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยสัมพันธภาพที่ดี ไม่มีใครถูกริดรอนสิทธิของความเป็นพลเมืองไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ส่วนที่เป็นปัญหาความขัดแย้ง ส่วนหนึ่งมาจากความเห็นต่างของบุคคลบางกลุ่มที่อาจเกิดจากความไม่เข้าใจหรือได้รับข้อมูลที่ถูกบิดเบือน จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องร่วมกันให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจ ครอบครัว ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่รัฐ และสังคมต้องช่วยกันแก้ปัญหาโดยไม่ผลักภาระหน้าที่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในทางพุทธ ในวันธรรมสวนะ หรือวันพระใหญ่ พระสงฆ์ที่วัดต่างๆในพื้นที่จะแสดงธรรมเทศนา เพื่อให้ธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนเพราะเมื่อมีศาสนาในหัวใจก็จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี เป็นมงคล ที่เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม

ด้านนายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า  “พวกเราภูมิใจที่ได้เป็นคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้สิทธิและเสรีภาพอย่างเต็มที่กับทุกๆศาสนา และที่สุดของความภาคภูมิใจ คือ ตลอดระยะเวลาของการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงเป็นเอกองค์อัครศาสนูปถัมภก ที่ทรงอุปถัมป์ศาสนาอิสลามเช่นเดียวกับทุกศาสนาอย่างเท่าเทียม  ศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริขึ้นแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ที่ทรงเข้าใจพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างทางศาสนาและวัฒนธรรม อีกทั้งปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังคงสืบสาน รักษา และต่อยอดตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 โดยทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกที่ทรงเกื้อหนุนและให้การอุปถัมภ์ศาสนาอิสลาม จนสามารถรับรู้ได้ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้

 


ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกพื้นที่บนแผ่นดินประเทศไทย การประกอบศาสนกิจของทุกศาสนิกสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา รัฐบาลให้การสนับสนุนทุกศาสนา ศาสนสถานได้รับการทำนุบำรุง ตลอดจนส่งเสริมและดูแลประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ตั้งแต่เด็กที่โรงเรียนตาดีกา และนักเรียนที่เรียนในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้ผู้นับถือศาสนาอิสลามเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่เป็นข้อบัญญัติหนึ่งของศาสนาอิสลาม รวมทั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และโต๊ะอิหม่ามก็ยังได้รับการดูแลโดยไม่ถูกทอดทิ้ง ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ทั้งผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และพุทธก็สามารถทำงานและใช้ชีวิตตามที่ตนเองปรารถนา ใครเก่ง ใครขยันก็ได้รับผลประโยชน์จากความสามารถของตนเอง ซึ่งสิทธิและเสรีภาพเหล่านี้พวกเราได้รับมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าประชาชนทุกศาสนาที่เกิดเป็นคนไทย และอยู่อาศัยบนแผ่นดินไทยมีความสุขที่สุดแล้ว

สำหรับบทบาทของผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความมุ่งหวังของพวกเราคืออยากเห็นความสันติสุขในพื้นที่ ดังนั้นสิ่งที่ถือปฏิบัติมาโดยตลอดคือ ผู้นำศาสนาที่เป็นเสาหลักของศาสนาในพื้นที่ ทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลประชาชน  และสัปบุรุษ ให้อยู่ในแนวทางของหลักศาสนาที่ถูกต้อง ทุกวันศุกร์ผู้นำศาสนาต้องอ่านคุตบะห์ หรือการบรรยายธรรมในหัวข้อหลักๆที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสังคมเกิดสันติสุข เช่น เรื่องปัญหายาเสพติด เรื่องการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีและให้เกียรติของพี่น้องต่างศาสนิก เรื่องการมีส่วนร่วมในการลดความขัดแย้ง และป้องกันการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขอยืนยันว่าประเทศไทยให้สิทธิเสรีและเสรีภาพอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม อีกทั้งผู้นำศาสนาในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาสได้มีเจตนารมณ์เดียวกันที่ต้องการเห็นความสงบสุขในพื้นที่และพร้อมร่วมสนับสนุนการสร้างสันติสุขในสังคมชายแดนใต้

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.