วันนี้ ( 17 มี.ค.66 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี เวลา 16.25 น. รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมกว่า 1,500 คน
 
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง มีกลุ่มผู้สูงอายุคอยให้การต้อนรับ พร้อมถือป้ายและมอบดอกกุหลาบให้นายกรัฐมนตรี เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมแนวคิดโครงการที่นำเสนอ โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับสินค้าเกษตร เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ถือว่าเป็นโครงการที่ตรงตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ส่วนราชการในพื้นที่ เข้ามาสนับสนุนการจัดทำโครงการ ช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป
 
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวพบปะกับผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตอนหนึ่งว่า วันนี้ตั้งใจมาพบผู้สูงอายุ แต่มีใครสูงวัยเลยที่นี้ มีแต่คนสูงประสบการณ์ ตั้งใจมาเยี่ยม มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องการมาดูว่ามีอะไรติดค้างอยู่ หรือมีอะไรที่จะแก้ไขได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีคำว่า​ ชาติ​ ศาสนา​ พระมหากษัตริย์​ อยู่ในหัวใจของคนไทยทั้งชาติ จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของเรา โดยจะต้องมองว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร​ จะนำพาคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายเจริญเติบโตไปด้วยกันได้อย่างไร ขออย่ากลัวว่ายุทธศาสตร์ชาติจะเป็นการคงอำนาจ หน้าที่ของเราคือทุกกลุ่มทุกฝ่าย​ต้องทำงานต่อไป
 
นายกรัฐมนตรี​เน้นย้ำว่า ตนเป็นทหารเก่าไม่ต้องการให้แตกแยก ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกในอนาคต  วันนี้รู้สึกหายเหนื่อย มาพบพี่น้องชาวเชียงใหม่เห็นรอยยิ้มของทุกคน ส่วนอาการบาดเจ็บของตนเองอาการดีขึ้น เจ็บที่มือไม่ได้เจ็บที่ใจ เป็นนายกรัฐมนตรีต้องอดทน ในฐานะรัฐบาลจะต้องทำให้ดีที่สุด วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง​ แต่มาดูว่าเป็นอย่างไร หลายเรื่องได้ให้หน่วยงานมาตรวจสอบ มาดูว่าทำอะไรตรงไหนอย่างไร โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องระมัดระวังให้ได้มากที่สุด ฝาก​ อบต.อบจ.​อสม. และส่วนท้องถิ่น ขอให้ทำงานให้มากขึ้นหนักขึ้น รู้ว่าทำงานหนักอยู่แล้ว ทำงาน 24 ชั่วโมง รัฐบาลถึงได้ดูแล ขอให้ทำดีต่อไปอย่าให้มีปัญหา จะเลือกตั้งแล้วต้องเรียบร้อย ให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชน
 
นายกรัฐมนตรี​กล่าวว่า รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ทุกเรื่อง แต่ทุกเรื่องแก้ได้ด้วยพวกเราช่วยกันเป็นหูเป็นตา ทั้งป้องกัน ปราบปราม จับกุมดำเนินคดี บำบัดรักษาทั้งหมด ต้องปรับทั้งระบบใหม่ทั้งหมด นายกฯ เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม แต่ทั้งหมดนายกฯ ทำคนเดียวไม่ได้​ ทุกคนทุกระดับต้องช่วยกันทำ​ นายกฯ โทษใครไม่ได้​ เมื่อได้เป็นผู้นำรัฐบาลที่จะต้องทำให้ทุกกระทรวงที่อยู่ร่วมกันกับรัฐบาลทำงานไปด้วยกันให้ได้ นี่คือการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี ที่มีรัฐมนตรีมาจากหลายพรรคการเมือง ขอขอบคุณทุกคน ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอให้เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณค่า เป็นหลักของสังคม เป็นหลักของบ้านของเมืองต่อไป