อุดรธานี เริ่มวันแรก!! "คนไข้รับยาใกล้บ้าน" ตามนโยบายแก้ปัญหาลดความแออัดในโรงพยาบาล
1 ต.ค. 2562, 19:39
วันนี้ (1 ต.ค. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องตรวจผู้ป่วยเบาหวานและความดัน โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ทันตแพทย์กวี วีระเศรษฐกุล ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.เขต 8 อุดรธานี นพ.ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พร้อมเภสัชกร โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ร่วมเปิดโครงการ “ร้านยาใกล้บ้าน เภสัชกรใกล้ใจ” ตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข ที่จะแก้ปัญหาโรงพยาบาลของรัฐ ที่มีประชาชนเข้ารับการรักษาจำนวนมาก ส่งผลให้ระยะเวลาในการรอคอย ทั้งรอตรวจและรอรับยา กินเวลานานหลายชั่วโมง ทาง รมว.สาธารณสุข จึงมีนโยบายให้เดินหน้าแก้ไขปัญหาลดความแออัดในโรงพยาบาล และลดเวลาการรอคอยให้ผู้ป่วยที่มาใช้บริการ โดยสามารถรับยาได้ที่ร้านขายยาแผนปัจจุบัน หรือ ขย.1 ที่เข้าร่วมโครงการ โดยวันนี้เป็นแรกที่เริ่มทำโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ขั้นตอนในการรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ผู้ป่วยจะต้องเป็นผู้ป่วย 3 กลุ่มโรค ได้แก่ 1. โรคเบาหวาน 2. โรคความดันโลหิตสูง 3. โรคหอบหืด โดยผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลก่อน และแจ้งความจำนงกับเจ้าหน้าที่พยาบาลว่าต้องการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน เมื่อแพทย์ทำการตรวจเสร็จ และจะประเมินว่าผู้ป่วยที่ร่วมรักษามีอาการคงที่ ไม่มีโรคอื่นแทรกซ้อน สามารถรับยาที่ร้านยาได้ แพทย์จะออกใบสั่งยาให้ จากนั้นผู้ป่วยสามารถถือใบสั่งยานั้นไปรับยากับร้านใกล้บ้านได้เลย เงื่อนไขการรับบริการนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ป่วยเป็นหลัก ยาที่ผู้ป่วยได้รับจากร้านยาต้องเป็นตัวเดียวกันกับที่โรงพยาบาลจ่ายไว้เดิม โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
สำหรับผู้ป่วยที่จะรับยาที่ร้านยา ช่วงแรกจะเป็นผู้ที่ใช้ “สิทธิบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” หรือ “บัตรทอง” สามารถเลือกขอรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน ที่มีเภสัชกรประจำอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยมีร้านยานำร่องร่วมโครงการนี้ 5 ร้าน คือ 1. ร้านสมศักดิ์เภสัช บ้านห้วย เทศบาลนครอุดรธานี 2. ร้านยาเภสัชบอย ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี 3. ร้านบ้านยาดรักสโตร์ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี 4. ร้านนิตโยเภสัช ซอยบ้านเก่าจาน ถนนนิตโย เทศบาลนครอุดรธานี และ 5. ร้านยาลลิลภัทร ถ.พรหมประกาย เทศบาลนครอุดรธานี เปิดบริการ 08.00-20.00 น. แนะนำคนไข้ที่อาศัยในตำบลนิคมสงเคราะห์, โคกสะอาด, หนองไฮ, โสกน้ำขาว และ นาดี สามารถรับยาได้ที่นี้
ทันตแพทย์กวี วีระเศรษฐกุล ผอ.สปสช.เขต 8 เปิดเผยว่า โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีประชาชนมารับบริการจำนวนมาก และจากนโยบายของ รมว.สาธารณสุข ที่ต้องการกระจายหน่วยบริการลดความแออัดของคนไข้ไปที่ร้านยาคุณภาพ มีเภสัชกรที่สามารถแนะนำความรู้เรื่องอื่นแก่คนไข้ได้ ทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จึงได้ร่วมกับร้านยา 5 แห่ง และทาง สปสช.เขต 8 อุดรธานี จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมา โดยคัดกรองคนไข้ที่มักรักษาโรคเรื้อรัง 3 โรค ที่มีอาการคงที่ และคนไข้สะดวกในการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน โดยไม่ต้องมาพบแพทย์ ซึ่งก่อนหน้าคนไข้จะต้องมารับยาเมื่อยาหมด ที่ต้องมารับยาที่โรงพยาบาล ทำให้เกิดความแออัด ต่อไปคนไข้สามารถไปรับยาได้ที่ร้ายยาใกล้บ้านได้เลย ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้ประสานกับร้ายยา 5 แห่ง รอบตัวเมืองอุดรธานี นำร่องไว้แล้ว โดยทางโรงพยาบาลจะจัดส่งยาไปรอที่ร้านยาเลย เป็นการลดความแออัดของคนไข้ที่มาโรงพยาบาล และทำให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลามารอรับบาที่โรงพยาบาลด้วย
นพ.ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมีความแออัด ซึ่งนโยบายของ รมว.สาธารณสุข ต้องการลดความแออัดของคนไข้ ซึ่งตัวเลขผู้ป่วยนอกที่มารับบริการที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี วันหนึ่งประมาณ 3,500-4,000 คน กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง คือ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน จะมีวันละประมาณ 200 คน กลุ่มผู้ป่วยหอบหืดอีกวันละประมาณ 200 คน กลุ่มจิตเวชอีกประมาณ 200 คน เฉลี่ยประมาณ 800-1,000 คน ต่อวัน หากสามารถกระจายผู้ป่วยกลุ่มที่เป็นโรคที่แพทย์นัดรับยาเท่านั้น ทางแพทย์จะแบ่งกลุ่มว่าผู้ป่วยคนนี้สามารถรับยาที่ร้ายยาที่ร่วมโครงการได้ จะทำไห้ผู้ป่วยรับความสะดวกสบายไม่ต้องมารอคิวที่โรงพยาบาล สามารถนำใบสั่งยาไปรับยาที่ร้ายยาได้เลย ทั้งนี้จะเป็นผู้ป่วยที่สมัครใจต้องการรับยาที่ร้านยาเท่านั้น
ต่อมาที่ร้านยาสมศักดิ์เภสัช และ ร้านยายาลลิลภัทร ที่เข้าร่วมโครงการ มีผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการไปทดสอบการรับยาที่ร้านยา โดยเป็นผู้ป่วยโรคหอบหืด และผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดัน ไปรับยาที่ร้ารยาทั้ง 2 ร้าน ที่ทางเภสัชกรประจำร้าน จะสอบถามอาการ พร้อมแนะนำวิธีการใช้ยากับผู้ป่วยที่มารับยาที่ร้านยา
นายทองดี มูลคม 52 ปี ผู้ป่วยโรคหอบหืด ที่เข้าร่วมโครงการ เปิดเผยว่า รู้สึกดี ที่ไม่ต้องไปรอรับยาที่โรงพยาบาล ซึ่งปกติหากมาโรงพยาบาล ต้องรอตรวจรอรับยาประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยต้องออกจากบ้านแต่เช้า ซึ่งต่อไปตนก็พร้อมที่จะมารับยาที่ร้านยา เพราจะได้ไปต้องเสียเวลา ที่ปกติหากมาโรงพยาบาลจะต้องเสียเวลาไปครึ่งวัน
เภสัชกรหญิง อัญชลี ตรีทิพย์สถิตย์ เภสัชกรประจำร้ายยาสมศักดิ์เภสัช บ้านห้วย เปิดเผยว่า ทางร้านมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ เพราะเรามีเภสัชกรประจำร้านถึง 4 คน ที่มีความสามารถในการจ่ายยา การให้คำแนะนำผู้ป่วย ที่ผ่านการอบรมมาแล้ว เรามีความพร้อมค่อนข้างสูง โดยในโครงการทางโรงพยาบาลจะตัดส่งมาให้ทางร้าย ที่เราจะแยกยาไว้ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับยาของทางร้าน เพราะเป็นยาคนละส่วน คต่อไปหากมีผู้ป่วยเข้าโครงการจำนวนมาก และเกิดยาไม่พอจ่ายให้ จะต้องมีการประสานสายตรงไปยังโรงพยาบาล ให้ส่งยามาเพิ่ม แต่คิดว่าโอกาสแบบนี้คงเกิดได้น้อย หากขาดจริง ทางร้านอาจจะจ่ายยาของทางร้านให้ไปก่อน โดยต้องทำระบบการขอยืมยา และเราต้องเบิกจากทางโรงพยาบาลคืน ซึ่งจะไม่มีเรื่องเงินเข้ามา เพราะเราจะรับยามาจากโรงพยาบาลเท่านั้น