บรรยากาศการรับสมัคร ส.ส.นราธิวาส แบบแบ่งเขตเลือกตั้งวันแรกคึกคัก ภาพรวมเรียบร้อยดี พรรคใหญ่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 5 เขต
3 เม.ย. 2566, 15:32
วันนี้ (3 เม.ย.66) ซึ่งเป็นวันแรกของการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งที่หอประชุมจำลอง ศรีเลขา โรงเรียนนราธิวาส อำเภอเมืองนราธิวาส บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เดินทางมารอก่อนเวลา โดยคนแรกที่มาถึงเวลา 06.52 น. เป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เขต 5 จากนั้นพรรคต่าง ๆ ก็ทยอยกันมา อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาชาติ พรรคเป็นธรรม พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครหน้าเก่า และพรรคใหญ่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 5 เขต ซึ่งทาง กกต.นราธิวาส ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตรวจเอกสารเบื้องต้นก่อนการยื่นสมัคร พร้อมนี้สภานักเรียนของโรงเรียนนราธิวาส ได้มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ส่วนบริเวณโดยรอบสถานที่รับสมัครบรรดากองเชียร์และผู้สนใจทั่วไปมาติดตามการรับสมัครเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการจัดตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร
โอกาสนี้ก่อนเข้าสู่การจับสลากหมายเลขผู้สมัคร นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวพบปะให้กำลังเจ้าหน้าที่และผู้สมัคร พร้อมร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง อาทิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รองผู้บังคับหน่วนเฉพาะกิจนราธิวาส ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สังเกตการณ์การรับสมัคร
นายเสน่ห์ รักรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส มี 5 เขตเลือกตั้ง มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2562 คาดว่าปีนี้จะมีผู้มาสมัครรวมกว่า 70 คน มองว่าในพื้นที่การแข่งขันไม่รุนแรง และจะเป็นไปตามกฎ กติกา ระเบียบกฎหมาย เพราะทุกคนมีความเข้าใจแนวทางปฏิบัติหลัง กกต.นราธิวาส จัดประชุมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลือกตั้ง ส.ส.เชิงสมานฉันท์ ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 575,624 คน (เดิม 550,645) หน่วยเลือกตั้ง 955 หน่วย (เดิม 927) เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (นิวโหวตเตอร์) ประมาณ 20,000 คน คาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ 84-85 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเมื่อปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 79.08 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ทาง กกต.นราธิวาส ได้สร้างความเข้าใจกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ อาทิ เพจเฟซบุ๊ก หอกระจายข่าว สื่อกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น