กรมขนส่งฯ จัดรถโดยสารพร้อมรับมือปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์
10 เม.ย. 2566, 17:16
วันนี้ ( 10 เม.ย.66 ) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า เนื่องด้วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องกันหลายวัน จากสถิติภาพรวมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2565 มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ในกรุงเทพและระหว่างจังหวัด รวม 7.5 ล้านคน/เที่ยว โดยกรมการขนส่งทางบกคาดการณ์ว่าเทศกาลสงกรานต์ในปี 2566 นี้ จะมีประชาชนเดินทางโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ลดลง ดังนั้น ปริมาณยานพาหนะที่ใช้บนท้องถนนจึงมีความคับคั่งและมีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2566 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และเสริมสร้างจิตสำนักความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 โดยกำชับไปยังสำนักงานขนส่งทั่วประเทศให้ดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน จัดหารถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชนและตรวจสอบให้มีความปลอดภัย ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ จัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องร้องเรียน และป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ, จัดระเบียบ กำกับ ดูแล สถานที่ รวมทั้งจัดระเบียบการเดินรถและการจราจรภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และสถานีขนส่งผู้โดยสารในพื้นที่ต่างจังหวัด รวมทั้งกำกับ ดูแล ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้งด้านการรักษาความสะอาดภายในสถานี และจัดระเบียบการเดินรถบริเวณสถานี การจราจรเข้า - ออก ภายในสถานี การติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างภายในชานชาลาให้เพียงพอ รวมทั้งตรวจสอบการทำงานของกล้อง CCTV ให้สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ช่วงก่อนเทศกาล กรมการขนส่งทางบกจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจความพร้อม ณ สถานประกอบการของผู้ประกอบการขนส่ง, ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร 125 แห่ง และจุดจอดรถทุกแห่งทั่วประเทศ 53 แห่ง เพื่อตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนนำรถออกให้บริการตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย และการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ เป็นต้น รวมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการและคนขับรถต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้ผู้ขับรถสาธารณะและรถขนส่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ รวมทั้งกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัดในการให้บริการประชาชน ช่วงระหว่างเทศกาล จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ สุ่มตรวจสารเสพติดของพนักงานขับรถสาธารณะ รวมทั้งมีการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ Checking Point 25 แห่ง บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ นอกจากนี้จะการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเข้าร่วมปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการตรวจความพร้อมด้านความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ จุดตรวจ ( Rest Area ) ทั้ง 13 จังหวัด 16 แห่ง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดลำปาง จังหวัดชัยนาท จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดอุดรธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดสงขลา จังหวัดพังงา และจังหวัดระยอง ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค จะดำเนินการจัดให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการใช้ความเร็วและชั่วโมงการทำงานเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและชั่วโมงการทำงานผู้ขับรถของรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่รับผิดชอบ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตรวจสอบจากระบบ GPS ควบคู่กับการจัดผู้ตรวจการออกตรวจสอบความเร็ว ซึ่งหากพบพนักงานขับรถทำผิดจะมีการดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดต่อ