เมื่อวานนี้ (18เม.ย.2566) ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.  พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.  พล.ต.ท.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4  พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล  พ.ต.อ.มนูวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4 สั่งการ ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมาย

เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จ.สุรินทร์ จึงบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.กาบเชิง,เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตำรวจภูธรภาค 3 และฝ่ายปกครองอำเภอกาบเชิง  ทำการสืบสวนหาข่าวและสกัดจับรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮก 1554 กทม. ซึ่งมีนายบุญเทียน โพธิ์เงิน อายุ 58 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์  เป็นผู้ขับขี่ ที่บริเวณถนน 214 (กาบเชิง-ช่องจอม)หน้าร้านอาหารป้าสาคร ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์  ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อมูลทางการสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลแอบลักลอบให้ความช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการขนแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่ชั้นในเพื่อส่งยังป่าชายแดน หรือจากป่าชายแดนเข้ามายังพื้นที่ชั้นในลักษณะการนำไปส่งตามจุดหรือตามจังหวัดต่างๆตามความต้องการของแรงงานต่างด้าว จากการตรวจสอบผู้โดยสาร 6 คนที่นั่งอยู่ภายในรถตู้พบว่าเป็นชาวกัมพูชาชายและหญิงมีเอกสารหนังสือเดินทางครบถ้วนจำนวน 4 คน ส่วนอีก 2 คนซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ไม่มีหนังสือเดินทาง ได้สอบถามแล้วทั้งสองคนรับว่าพวกตนลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อหางานทำที่จังหวัดนครราชสีมาแต่ไม่มีที่ใดรับเข้าทำงานจึงเดินทางกลับกัมพูชา

นายบุญเทียน โพธิ์เงิน ผู้ขับขี่รถตู้รับว่ารับแรงงานกัมพูชาทั้ง 6 คน มาจากอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาเพื่อไปส่งยังด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ตนไม่รู้ว่าแรงงานกัมพูชาทั้งหมดมีเอกสารหนังสือเดินทางครบทุกคนหรือไม่ โดยได้รับค่าจ้างจากชาวกัมพูชาคนละ 1,200 บาท

ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหานายบุญเทียน โพธิ์เงิน ว่ากระทำผิดตามมาตรา 64 “ผู้ใดโดยรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ส่วนแรงงานกัมพูชา จำนวน 2 คน ที่โดยสารมากับรถตู้ไม่มีเอกสารเดินทางได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เช่นเดียวกัน  จากนั้นได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมรถตู้ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันเมื่อเวลาประมาณ  15.30 น. ของวันนี้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จ.สุรินทร์ อีกชุดหนึ่งได้สนธิกำลังกับฝ่ายสืบสวน สภ.ปราสาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตำรวจภูธรภาค 3 ได้จับกุมนายจิรายุทธ คนึงดี อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 1 นก7268 กทม. พร้อมแรงงานชาวกัมพูชาชายหญิง จำนวน 6 คน ไม่มีเอกสารเดินทางได้ที่บริเวณริมถนน 214 (ปราสาท-กาบเชิง) ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จว.สุรินทร์ จากการสอบถามนายจิรายุทธ คนึงดีผู้ขับขี่ใหการรับสารภาพว่าตนขับรถตู้รับแรงงานกัมพูชาทั้ง 6 คนมาจากบริเวณชายแดนด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำไปส่งที่จังหวัดชลบุรีและนนทบุรีในราคาคนละ 1,500 บาท
ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหานายจิรายุทธ คะนึงดี ผู้ขับขี่รถตู้ว่ากระทำผิดตามมาตรา 64 “ผู้ใดโดยรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
ส่วนแรงงานกัมพูชา จำนวน 6 คน ที่โดยสารมากับรถตู้ไม่มีเอกสารเดินทาง  ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า“เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เช่นเดียวกัน  จากนั้นได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมรถตู้ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปราสาท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป