รองผู้ว่ากาญจน์ นำข้าราชการทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
25 เม.ย. 2566, 12:22
วันนี้ 25 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี นายศักรินทร์ ทุมเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พร้อมด้วย นางสาวเพ็ญศรี กลั่นบุศย์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมพิธีฯ
จังหวัดกาญจนบุรีจัดพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการกอบกู้เอกราชให้แก่ประเทศไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระราชสมภพ เมื่อปีพุทธศักราช 2098 พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพและฝีพระหัตถ์ในทางการรบและเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ตรากตรำพระวรกายในการศึกสงครามตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้นนับตั้งแต่พระชนมายุ 16 พรรษา ทรงสามารถขับไล่กองทัพพระยาจีนจันตุจนแตกพ่ายไป ปีพุทธศักราช 2124 ทรงแสดงแสนยานุภาพในการยกกองทัพเข้าตีเมืองคังที่ตั้งอยู่บนเขาสูงและได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย จนถึงปีพุทธศักราช 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ว่าตั้งแต่วันนี้กรุงศรีอยุธยาขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรกันดังแต่ก่อนต่อไป
ถือเป็นการประกาศอิสรภาพของไทยหลังจากประกาศอิสรภาพแล้วก็ได้กรีฑาทัพเข้าสู่ชานเมืองหงสาวดีและรวบรวมคนไทยกลับมาได้ ทั้งยังสามารถใช้พระแสงปืนยาวยิงข้ามแม่น้ำสโตงถูกแม่ทัพของพม่าที่ติดตามมาซึ่งนั่งอยู่บนคอช้างจนเสียชีวิตทำให้พม่าถอยกลับไป จะถึงปีพุทธศักราช 2129 พระเจ้านันทบุเรงยกทัพใหญ่มาล้อมกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้วิจารณญาณลำเลิศวางแผนป้องกันเมืองโดยการจัดกองโจรออกตัดการลำเลียงเสบียงและออกไปตีปล้นข้าศึกเพื่อไม่ให้ข้าศึกมีเวลาพักผ่อน พม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่นานถึง 5 เดือน แต่ไม่สามารถเข้าตีได้จึงได้ถอยทับกลับไป กรุงศรีอยุธยาว่างสึกได้เพียง 3 ปี จนร่วงถึงพุทธศักราช 2133 สมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชพระเจ้านันทบุเรงจึงยกทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยาครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง และในครั้งนี้สมเด็จพระนเรศวรทรงได้เปลี่ยนยุทธวิธีการรบจากการตั้งรับมาเป็นฝ่ายรุกด้วยพระองค์ยกกองทัพไปตั้งรับที่ลำน้ำท่าคอย และหลอกล่อให้กองทัพพม่าลูกไล่เข้าไปในวงล้อมที่พระองค์วางทับรออยู่ ซึ่งผลของการรบทางน้ำพระยาผู้การตายในที่รบพญาพระสิงห์ถูกจับตัว ส่วนพระมหาอุปราชาถอยหนีไป ในปีพุทธศักราช 2148 พระเจ้าอังวะมีอำนาจขึ้นจึงขยายอาณาเขตเข้ามาทางแคว้นไทยใหญ่สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปยังเมืองหลวงแต่จงประชวรหนักจนสมเด็จพระเรศวรจนเสด็จสวรรคตเมื่อเดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็งพุทธศักราช 2548 พระชนมพรรษา 50 พรรษา อยู่ในราชสมบัติ 15 ปี
จากวันนั้นถึงวันนี้แม้พระองค์จะได้เสด็จสวรรคตมานานกว่า 418 ปีแล้วก็ตาม พสกนิกรชาวไทยทั้งมวลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านที่ทรงพระปรีชาสามารถกล้าหาญเด็ดเดี่ยวขับไล่ อริราชศัตรู ตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อสร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทย และเป็นมหาวีระกรรม ที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ชาติไทยตราบจนถึงทุกวันนี้