วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายสมชาย ภิญโญ ผู้สมัครส.สเบอร์ 2 พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จะเข้ามาแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน โดยการดึงน้ำจากลำน้ำชี ขยายท่อจากอำเภอบัวใหญ่ไปอำเภอสีดา และจากอำเภอบัวใหญ่ไปอำเภอบัวลาย โดยจะต้องหาแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อรองรับจำนวนน้ำ ก่อนจะทำเป็นของไส้ไก่ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ภาคการเกษตร ในส่วนของผลักดันราคาพืชผลทางการเกษตรนั้น ในพื้นที่ส่วนใหญ่จะปลูกข้าว มันสําปะหลังและอ้อย ถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิจะอยู่ตันละ 18,000 บาท ส่วนข้าวขาวจะอยู่ที่ 12,000 บาท ต่อตัน ไม่ส่วนราคามันสำปะหลังราคาจะอยู่ที่ 3 บาท หากสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย มันสําปะหลังจะผลักดันให้ราคาอยู่ที่ 4 บาท ส่วนในพื้นที่จะมีโรงงานรับซื้ออ้อยขนาดใหญ่ ในภาคอีสาน ราคาจะอยู่ที่ 1,400 บาทถึง 1,600 บาท ทั้งนี้ทางครม.ได้อนุมัติขึ้นเงินเดือนให้ อสม.จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม2566 นี้ จากเดิมได้ 1,000 บาทมีการปรับเพิ่มเป็น 2,000 บาท ในส่วนของผู้สูงอายุ พรรคภูมิใจไทยได้มีนโยบาย ผู้สูงอายุ 60 ปี ทั้งประเทศประเทศมีอยู่ 14 ล้านคน จะมีเงินกองทุนประกันชีวิต ให้ทุกคน โดยที่ไม่ต้องผ่อน ไม่ต้องชำระ ไม่ต้องส่ง จะมีเงินกองทุนรัฐบาลเข้าไปดูแล ในกรณีเสียชีวิตทุกกรณีจะได้ค่าทำศพเพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลาน 100,000 บาท กรณีหากยังมีชีวิตอยู่อยากใช้เงินจำนวนดังกล่าว มาใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็น สามารถเบิกเงินจำนวน 20,000 บาทไปใช้ได้ ในส่วนของโครงการกู้เงินฉุกเฉิน 50,000 บาท มาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและเร่งด่วน ในส่วนของสโลแกนคำว่าเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนจากผู้สมัครเดิมมาเป็นผู้สมัครใหม่ เปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่มีการพัฒนา ให้เป็นมหานครบัวใหญ่ ฝากประชาชนช่วยสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 7 ส่วนส.สเบอร์ 2

นางอรทัย พลวิเศษ ผู้สมัครส.สเบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้ออกพบปะประชาชน 90% โดยได้มีการนำนโยบายโดยเฉพาะการช่วยเหลือชาวนาที่ลงทะเบียนเกษตรกรจำนวน 30,000 บาท และเงินค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ รวมแล้วไม่เกิน 60,000 บาท รวมไปถึงนโยบายการดูแลผู้สูงอายุ 60 ปีได้เงินจำนวน 3,000 บาท 70 ปี 4,000 บาท 80 ปีได้ 5,000 บาท ถือว่าเป็นนโยบายที่ดูแลประชาชนทุกช่วงวัย รวมไปถึงนโยบายดูแลเด็กแรกเกิด ดูแลตั้งแต่ในครรภ์มารดา ตั้งแต่ท้อง 5 เดือนจนถึง 9 เดือน จะช่วยเหลือเดือนละ 10,000 บาท และแรกเกิดถึง 6 ปี จะช่วยเหลือเดือนละ 3,000 บาท เป็นเงิน 266,000 บาท ต่อการดูแลแม่และลูก 1 คน ในส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 300 เพิ่มเป็น 700 นั้น ถือว่าตอบโจทย์ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ถึงชาวบ้านมีความต้องการ ให้รัฐช่วยเหลือ และยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับการดูแล ในส่วนเจ้าของบัตรเสียชีวิต ลูกหลานจะได้รับเงิน2 แสนบาท ทุกกรณีที่เสียชีวิต รวมไปถึงวงเงินกู้ให้ประกอบอาชีพ จำนวน 50,000 บาท ในส่วนของการดูแลเรื่องน้ำ พรรคมีนโยบายว่า มีน้ำไม่จน มีน้ำไม่แล้ง จากการลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนพบว่าบ้านที่มีน้ำเค็ม น้ำไม่เพียงพอ โดยจะทำ 1 หมู่บ้านหนึ่งแหล่งน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ยังไงก็ตามฝากประชาชนสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเบอร์ 37  ส.ส.เขตเบอร์ 7