วันนี้ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณสนามกีฬาหลังเทศบาลตำบลท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเป็นชาวอำเภอท่าม่วงโดยกำเนิด พร้อมด้วย พลเอกณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 และนายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ หรือ สจ.เกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 เบอร์ 3 พรรคพลังประชารัฐ  โดยมีคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมาก มาร่วมรับฟังปราศรัย และในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ผู้นำของแต่ละพรรคเริ่มลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรค ในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 11 วัน เท่านั้น ที่ประชาชนจะได้ไปใช้สิทธิ์ในการลงคะแนน

สำหรับ นายศรัณยู อาทิตยาศรัณยากร ผอ.กกต.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง พ.ศ.66 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้อนเรียนเข้ามาแม้แต่เรื่องเดียว จะมีก็เพียงแค่การแจ้งเบาะแสเข้ามาเพียงประเด็นเดียว ซึ่งการแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่เราจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นข้อเท็จจริงที่เราจะดำเนินการต่อไป

ซึ่งการแจ้งเบาะแสนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับรายละเอียดของการแจ้งด้วย ถ้าแจ้งแบบลอยๆ แจ้งแบบไม่รู้ ไม่ใช่ว่านึกอยากจะไปแจ้ง กกต.ก็ไปแจ้ง เช่นสมมุติว่าผู้แจ้งไปแจ้งกับผู้สื่อข่าว แล้วให้ผู้สื่อข่าวไปหาข่าวต่อ ซึ่งบางทีมันก็ไม่ใช่ว่าจะถึงขนาดนั้น แต่ถ้าหากมีผู้เสียหายก็สามารถร้องเรียนได้ แต่ผู้ร้องเรียนต้องรับผิดขอบด้วยว่าเป็นการร้องเรียนเท็จหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีผู้เข้าไปร้อง กกต.ส่วนกลาง ก็เป็นการแจ้งเบาะแสเช่นเดียวกัน เพราะผู้ร้องเรียนไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่กาญจนบุรี แต่เราก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นจริงหรือไม่เป็น หรือข้อมูลหัวข้อเหล่านั้นผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือจะร้องเรียนก็ยังไม่กล้าที่จะร้องเรียน เพียงแต่ว่าทำแบบเลียบค่ายไปเรื่อย ถ้าอย่างนั้นไอ้การที่ให้เป็นข่าวสารคุณก็ทำลายสังคมเช่นเดียวกัน เพราะคนเขาไม่รู้ว่าเนื้อแท้ที่ร้องคือร้องเรียนเรื่องอะไร แต่พอมายื่นจริงเนื้อหามันใช่หรือไม่ใช่นั้นเรื่องนี้ก็ฝากไปถึงผู้ที่จะร้องด้วย

สำหรับการที่มีผู้ไปแจ้งความเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่สี่ เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ที่มาแจ้งมาแจ้งลงบันทึกประจำวันหรือมาแจ้งให้ดำเนินคดี แต่คนทั่วไปต่างก็เข้าใจว่าเป็นการแจ้งเพื่อดำเนินคดี แต่ผู้แจ้งอาจจะมีจุดประสงค์เพียงแค่อยากให้เป็นข่าวเท่านั้น

ใกล้ถึงวันเลือกตั้งเข้ามาแล้ว กกต.มีความพร้อมเรื่องนี้ กกต.ได้กำหนดปฏิทินการทำงานเอาไว้ มันเป็นไปตามระยะเวลาทั้งก่อนช่วงรับสมัคร ช่วงตรวจสอบคุณสมบัติ ช่วงการเตรียมจัดสถานที่หน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งเตรียมคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เรื่องนี้มันเดินไปตามระยะเวลาครบแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือมีเพียงแค่การอบรม รวมทั้งการจัดหีบบัตรคูหาวัสดุประจำหน่วยให้เพียงพอเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ กกต.ได้รับการจัดสรรงบประมาณที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาแล้ว

สุดท้ายอยากจะฝากไปถึงกลุ่มกำนันผู้และใหญ่บ้านว่าตำแหน่งนี้ถือว่าท่านเป็นหน่วยงานรัฐตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นท่านจะต้องเป็นกลางทางด้านการเมือง แต่ถ้าหากพบว่าท่านมีพฤติกรรมใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปสนับสนุนให้คุณให้โทษต่อผู้สมัคร ถ้ามีผู้ร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดกาญจนบุรี ได้ฝากย้ำเตือนประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์ ในครั้งนี้ต้องใช้บัตร 2 ใบ บัตรสีม่วงใช้เลือก ส.ส. เขต ส่วนบัตร สีเขียวใช้เลือกแบบบัญชีรายชื่อ หรือเลือกพรรค