วันนี้ ( 15 พ.ค.66 ) ภายหลังทราบผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทาง ล่าสุดนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรค ได้แถลงอย่างเป็นทางการหลังชนะการเลือกตั้ง โดยระบุว่า เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าคนไทยได้แสดงเจตจำนงค์ผ่านการเลือกตั้ง ให้พรรคก้าวไกลได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของการเลือกตั้งที่ผ่านมา ฉะนั้นขอประกาศ ณ ทีนี้ว่าพรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล น้อมรับฉันทามติจากประชาชน พลิกขั้วเปลี่ยนข้างจากฝ่ายค้านเดิมในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน พร้อมฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ความคิดเห็นที่แตกต่างจะทำให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีขึ้นในอนาคต ตอนนี้เราพร้อมที่จะเคารพ ให้เกียรติ ต่อยอดจากการต่อสู้ทุกฝ่ายที่ผ่านมาเพื่อประชาธิปไตย ในขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะคืนศรัทธาให้กับระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา สร้างความโปรงใส และมีประสิทธิภาพให้กับระบบการเมืองไทยและผู้แทนราษฎรทุกคน ตนได้มีโอกาสติดต่อโทรศัพท์ไปหาแกนนำทั้งหมด 

ตนได้มีโอกาสโทรศัพท์ติดต่อไปหาแกนนำทั้งหมด 5 พรรคด้วยกัน มีทั้งที่ตนติดต่อไปเอง และที่มีการติดต่อเข้ามายังพรรคก้าวไกล มีโอกาสได้โทรศัพท์หาคุณแพทองธาร ชินวัตร แสดงความยินดี กับความมุ่งมั่นตั้งใจในการเดินทางหาเสียง ถึงแม้ว่าจะมีบทบาทความเป็นแม่ด้วย แต่เธอก็ทำได้อย่างดีเยี่ยมไร้ที่ติ พร้อมได้เชิญชวนพรรคเพื่อไทยในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก้าวไกล-เพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมตามที่เคยได้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน 5 พรรค ประกอบด้วย ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย และเสรีรวมไทย ถ้ารวมกันตอนนี้ 308 เสียง และกำลังติดต่อไปยังพรรคเป็นธรรมอีก 1 พรรค จะรวมเป็นทั้งหมด 309 เสียง ซึ่งคิดว่าเพียงพอแล้วในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ถือว่าเป็นการที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนต้องน้อมรับฉันทามติของพี่น้องประชาชน มาปฏิบัติ และชัดเจนว่าเป็นการปิดประตูการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นที่แน่แท้แล้ว

การทำงานของเราจะมีอยู่ 2-3 ส่วน อันที่ 1 คือการเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลจะนำโร้ดแมพที่ได้สัญญาไว้ก่อนการเลือกตั้งเพื่อที่จะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าเป็นการแก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ และพร้อมที่จะพาประเทศไทยไปสู่อนาคต ทำประชามติให้มี สสร.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และพัฒนาเศรษฐกิจปากท้อง และลดความเหลื่อมล้ำไปในทีเดียวกัน 

ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะตั้งทีมงานในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีคณะทำงานร่วมกับทุกพรรคในการที่จะให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอำนาจ เปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างมีรูปธรรมและประสิทธิภาพ จะมีการเดินสายพบพี่น้องประชาชน ภาคประชาสังคม พี่น้องราชการ ภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วน สุดท้ายพร้อมที่จะเดินหน้าทำความเข้าใจกับคนที่อาจจะยังไม่เข้าใจในนโยบายของพรรคก้าวไกล หรือ คนที่เห็นต่าง เพื่อที่จะให้ผลจากการเลือกตั้้งครั้งนี้เป็นฉันทามติที่มาจากพี่น้องประชาชน และสามารถที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้ เพื่อที่จะให้เห็นผลดีของความตั้งใจในการทำงานของพรรคก้าวไกล และพาประเทศไทยไปสู่อนาคต สู่การเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่เราถวิลหา