ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านอาพืด ม.4 ต.คำผง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ว่าเมื่อหลายวันก่อน ได้มีการตัดต้นไม้ยางขนาดใหญ่ ภายในวัดบ้านอาพืด จำนวนสิบกว่าต้นและขนาด 3 คนโอบภายในพื้นที่สาธารณะบริเวณศาลปู่ตาท้ายหมู่บ้าน จำนวน 1 ต้น ซึ่งมีนายสายทอง หนองหงอก กำนันตำบลคำผง ได้เชิญชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาร่วมประชาคมเพื่อตัดต้นไม้ โดยชาวบ้านมองว่าการประชาคมอาจผิดขั้นตอนกฎหมาย เพราะมีบางคนที่ไม่ได้ไปร่วมกับมีรายชื่ออยู่ในนั้น ประกอบกับชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องการที่จะอนุรักษ์ต้นยางไว้เพื่อให้อยู่คู่ลูกหลาน ถ้าหากกลัวต้นไม่ล้มทับบ้านเรือน ทำไมไม่ใช้วิธีการตัดทอนกิ่งเอา จะได้มีร่มเงาให้อาศัยบังแดดหลบฝนได้บ้างและต้นไม่ก็ยังคงอยู่สืบไป โดยเฉพาะต้นยางนาคาดว่า มีอายุร้อยกว่าปีที่อยู่ภายในศาลปู่ตาและเป็นพื้นที่สาธารณะทำไมถึงตัดได้แบบง่ายๆได้มีการขออนุญาตถูกต้องก่อนตัดหรือไม่ ร่วมทั้งการขายก็ไม่ได้ระบุจำนวนต้นไม้ว่าจะตัดกี่ต้น ขายได้เงินกี่บาท นำเงินไปใช้ทำอะไร เพราะราคาต้นไม้ที่ถูกตัดออกไปมองแล้วมูลค่าน่าจะหลักหลายแสนบาท จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยสอบถามเพื่อความกระจ่างให้กับชาวบ้านด้วย เนื่องจากชาวบ้านไม่อยากมีปัญหากันภายในชุมชน
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ ที่วัดบ้านอาพืด พบว่าบริเวณด้านหลังโบสถ์มีต้นไม้ถูกตัดออกไปสิบกว่าต้น เหลือแต่ต่อไม้กับท่อนไม้กิ่งไม้บางส่วนที่ยังไม่ได้ถูกขนออกไปวางกองอยู่เป็นจุดๆ จากนั้นได้ไปตรวจสอบที่ศาลปู่ตาท้ายหมู่บ้าน พบต้นยางขนาดประมาณ 3 คนโอบความสูงประมาณ30-40 เมตร ถูกตัดโค้นล้ม ส่วนลำต้นจากโคนต้นไปถึงกลางลำต้นถูกขนย้ายออกไปแล้ว เหลือช่วงกลางลำต้นกับปลายไม้ที่ถูกตัดเป็นท่อนรอการขนย้าย
จากการสอบถามนายธนกร วิยาสิงห์ อายุ 52 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านอาพืด ที่มีบ้านอยู่ใกล้ศาลปู่ตาที่ต้นยางใหญ่ขนาด 3 คนโอบถูกตัด บอกว่า ต้นนี้สูงประมาณ 30-40 เมตร ลมมาแรงๆกิ่งของมันเคยตกลงมาใส่หลังคาบ้านทะลุมาครั้งหนึ่ง มีแต่กิ่งต้นมันไม่มีหรอก ที่กลัวก็กลัวตรงนี้คือกิ่งไม้ ส่วนตัดไปแล้วนำไปขายอะไรแบบไหนตนไม่รู้ เพราะตอนประชาคมตนก็ไม่ได้ไปร่วมด้วย แต่เคยเสนอให้เขาตัดอยู่เพราะกิ่งมันหักจะมาโดนบ้านตน
และจากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียงวัด บอกว่า ไม่รู้ว่าตัดวันไหนเพราะตนไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ก่อนตัดก็ได้มีการประชุมกันอยู่ ส่วนสาเหตุที่ตัดเห็นว่าชาวบ้านที่อยู่ข้างวัดเขากลัวต้นไม้ล้มใส่บ้านและโบสถ์ ส่วนไม้เขาเอาไปไหนตรงนี้ไม่รู้ แต่เงินที่ขายได้ก็จะเอามาเข้ากองกลางไว้ เพื่อสร้างโบสถ์ที่ยังทำไม่เสร็จ ตอนประชุมก็ตกลงกันให้ขายมันจะง่ายกว่าเพราะตัดเองไม่ได้ ส่วนต้นที่ศาลปู่ตาทางผู้ใหญ่เก่าเขาก็อยากให้ตัดเหมือนกันเขากลัวล้มใส่บ้านเขา โดยศาลาปู่ตาก็เป็นที่ของหมู่บ้านเหมือนกันเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนักถือกันทั้งหมู่บ้าน
จากการสอบถามพระอธิการชัย ชยธัมโม เจ้าอาวาสวัดบ้านอาพืด กล่าว่า ตนก็ไม่รู้ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ได้ร่วมประชาคมกับเขาเลย มารู้ตอนที่กำนันมาบอกว่าจะตัดต้นไม้ เพราะมีชาวบ้านระแวงว่าจะหักโค่นมาใส่บ้านที่อยู่ใกล้ ก็ให้เขาดำเนินการไป โดยเขานำไปขายแล้วจะเอาเงินมาสร้างอุโบสถ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ และจนถึงขณะนี้ตนก็ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไหร่เข้าวัดเท่าไหร่ เป็นเรื่องของคณะกรรมการวัดเขาจัดการไป ไม่รู้กับเขาหรอก ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ตนเป็นพระอาศัยบิณฑบาตขอข้าวชาวบ้านฉันท์ ไม่ยุ่งเรื่องนี้หรอก ก็แล้วแต่คณะกรรมการวัดและชาวบ้านจะดำเนินการไป