"บิ๊กโจ๊ก" เผยเตรียมส่งฟ้อง 15 คดี "แอม ไซยาไนด์" โทษสูงสุดประหารชีวิต
8 มิ.ย. 2566, 16:32
วันที่ 8 มิ.ย. 66 มีรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าพบ นายปรีชา สุขสงวน อธิบดีสำนักงานคดีอาญาและพนักงานอัยการในคณะทำงาน ในคดีแอมไซยาไนด์ เพื่อหารือการทำสำนวนคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ วางยาฆาตกรรม มีการเข้าหารือกับ นายปรีชา อธิบดีสำนักงานคดีอาญา โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวภายหลังเข้าหารือว่า การพบกับท่านอธิบดีในวันนี้เป็นการหารือเพื่อวางแผนในการทำสำนวนคดีของแอมไซยาไนด์ ให้มีความรัดกุมรอบคอบ และกระชับในเรื่องของระยะเวลาขั้นตอนในการพิจารณาสำนวน เพื่อให้สามารถสั่งคดีได้อย่างรวดเร็ว เพราะทุกครั้งพนักงานสอบสวนกว่าจะส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการก็กินระยะเวลาฝากขังไปจนถึงครั้งที่ 5-6 จะส่งผลกระทบไปถึงพนักงานอัยการที่มีเวลาให้ตรวจสอบสำนวนน้อยเกินไป
รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยในวันนี้ทำให้ทราบว่าทางอธิบดีอัยการ สั่งตั้งคณะทำงานของพนักงานอัยการเพื่อใช้ทำงานในสำนวนคดีนี้ขึ้นเป็นพิเศษหนึ่งชุด โดยพนักงานอัยการชุดนี้จะทำหน้าที่พิจารณาสำนวนคดีนี้โดยเฉพาะ เพื่อทำให้ระยะเวลาในการตรวจสำนวนของพนักงานอัยการมีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น
“ในส่วนของพนักงานสอบสวน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีทั้งหมดทั้ง 15 คดี ที่แบ่งเป็นคดีฆาตกรรม 14 คดีและแบ่งเป็นคดีพยายามฆ่า 1 คดี จะสามารถส่งพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์หน้า” รอง ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ยังรวมถึงการดำเนินการทางคดีกับคนสนิททั้ง 2 คนคืออดีตสามีที่เป็นตำแหน่งรอง ผกก. และทนายความคนสนิทร่วมด้วย โดยหลังจากนี้เมื่อส่งสำนวนคดีของแอมให้กับพนักงานอัยการแล้วทางตำรวจก็ขยายผลดำเนินการในเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ ที่แอมมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้เล่น รวมถึงตัวยาไซยาไนด์ ที่เบื้องต้นต้องจัดการกับทางโรงงานและเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการละเลยจนทำให้เกิดการเสียหายเกิดขึ้น
รอง ผบ.ตร. ยังระบุยืนยันอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของตัวแอมโทษสูงสุดที่ต้องได้รับในครั้งนี้คือประหารชีวิต เนื่องจากกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ต่างข้อหา และถูกแจ้งข้อหาจำนวนมาก ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ข้อหาที่ถูกแจ้งจะมีมากถึง 80 ข้อหา ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอหรือไม่ เพราะตนจำไม่ได้ ต้องกลับไปตรวจสอบก่อน
แต่โดนไปหลาย 10 ข้อหาแน่ๆ ในส่วนของโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต เว้นแต่ว่าตัวผู้ต้องหาจากไปให้การรับสารภาพหรือชั้นการไต่สวน ซึ่งโทษก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอีกครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของตัวทนายความเบื้องต้น ขนาดนี้ยืนยันยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อ ซึ่งข้อหาที่ดำเนินการยังคงอยู่ในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสารและร่วมกันทำลายหลักฐานในคดี ซึ่งการดำเนินการหลังจากที่มีการส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการแล้ว ทางตำรวจจะมีทำหนังสือไปถึงสภาทนายความ เพื่อให้พิจารณามรรยาททนายความอีกครั้ง