ผอ.ร.ร.ฉาวหอบหลักฐานแจงสื่อก่อน พบ กก.สอบ กรณีสร้างโรงจอดรถ
6 ส.ค. 2566, 13:16
จากกรณีผู้ปกครองและนักเรียน จำนวน 250 คนเดินขบวนขับไล่ ผอ.โรงเรียนระดับชั้นมัธยมในตำบลสมสนุก อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ที่นำเงินผ้าป่าสามัคคีที่ชาวบ้านร่วมกันทำบุญบริจาคกว่า 600,000 บาท นำมาสร้างโรงจอดรถหลังใหม่ให้นักเรียนไม่สมราคา และไม่โปร่งใส พอชาวบ้านสอบถามก็ไม่พอใจขู่แต่จะฟ้อง จึงรวมตัวกันบุกโรงเรียนถามหาใบเสร็จ สุดท้ายมีมติให้ย้ายหนีไปที่อื่น เหตุเกิดเมื่อ 27 ก.ค.ผ่านมาตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 15.00 น วันที่ 5 ส.ค.นางศศิธร วงศ์ชาลี ผู้อำนวยการโรงเรียนสมสนุกพิทยาคม ตำบลสมสนุก อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ สังกัด สพม.บึงกาฬ ได้เข้าพบนายนิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ประธานชมรมสื่อมวลชลบึงกาฬ เพื่อขอชี้แจงที่ตกเป็นข่าวว่า จากเหตุการณ์ที่มีผู้ปกครองและนักเรียน มีการชุมนุมประท้วงขับไล่ให้ผู้อำนวยการออกไปจากโรงเรียนและมีข้อกล่าวหาข้อสงสัยจากชาวบ้านบางส่วนที่อ้างตัวว่าเป็นชาวบ้านตำบลสมสนุกว่าตัวผู้อำนวยการนำเงินผ้าป่าไปสร้างอาคารอเนกประสงค์โรงจอดรถอย่างไม่โปร่งใสนั้น จึงขอชี้แจงว่า การจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์นั้น เพราะว่าอาคารหลังเดิมชำรุด อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้นักเรียนที่นำรถไปจอดเกิดการเสียหายทรัพย์สินหรืออาจทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายของลูกนักเรียน จึงได้หารือไปยังคณะกรรมการสถานศึกษาและก็ผู้ปกครองนักเรียน จึงได้มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษามีมติว่า จะจัดทำผ้าป่าสามัคคีขึ้นเพื่อทำอาคารอเนกประสงค์และโรงจอดรถหลังใหม่ ซึ่งมีกรรมการที่มาประชุมทั้งหมด 9 คน คือนายแสงจันทร์ เลพล ประธานฯ พระครูปัญญา ภาวนาสาร รองเจ้าคณะอำเภอปากคาด นายผัน ดวงดี กำนัน นายศักดิ์ชัย อารมย์ นายก อบต.นายวิลัย เพ็งธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 นางบัวไล จันทร์ทอง ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน นายธีรภัทร กนิษฐวงศ์ เป็นตัวแทนศิษย์เก่า นางสาววัตถาภรณ์ ปักขะพล เป็นตัวแทนครูและดิฉันนางศศิธร วงศ์ชาลี ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นกรรมการและเลขานุการ
ผอ.คนดังกล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมว่ามีมติว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ให้มีการสวดมนต์ข้ามปี วันที่ 1 มกราคมทางโรงเรียนรวบรวมต้นผ้าป่า วันที่ 2 มกราคม ทำบุญตักบาตรที่โรงเรียน กลางวันมีการแข่งขันกีฬาศิษย์เก่า กลางคืนมีรำวงย้อนยุคและมีการสังสรรค์ด้วยโต๊ะจีน ผลจากการรวบรวมเงินผ้าป่านั้นได้ เงินจำนวน 468,424.46 บาทและนำไปฝากที่ธนาคารออมสินสาขาปากคาด ในบัญชีเผื่อเรียก โดยผู้ไปเปิดบัญชีมีจำนวน 5 คนแล้วก็สามารถเบิกถอนได้ 3 ใน 5 คน
จากนั้น นายศักดิ์ชัย มารมย์ นายก อบต.สมสนุกได้ให้นายช่างประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโรงจอดรถเป็นจำนวนเงิน 9 แสนกว่าบาท ซึ่งโรงเรียนเรารวบรวมเงินผ้าป่าได้ไม่พอกับจำนวนเงินที่ทาง อบ.ประมาณการให้ จึงได้ตกลงขอทำเท่ากับจำนวนเงินที่มีอยู่คือ 4 แสนกว่าบาท โดยตกลงแบ่งงานออกเป็น 4 งวดโดยงวดแรกรื้อถอนโรงรถเดิมก่อนพร้อมกับตัดต้นไม้ จากนั้นได้นำดินลูกรังมาถมเป็น จำนวน 215 คันรถ 6 ล้อดั้มพ์ แต่ทางผู้รับเหมาถมดินได้ช่วยเหลือทางโรงเรียนโดยคิดค่าถมดินเพียง 200 รถ รถละ 300 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาทถ้วน จากนั้นได้ว่าจ้างรถไถมาปรับเกลี่ยดินโดยผู้รับจ้างไม่ขอรับเงินค่าจ้าง แต่ให้ทางโรงเรียนช่วยค่าน้ำมันรถเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท แต่เนื่องจากการปรับดินครั้งนี้ไม่เรียบร้อยทางคณะกรรมการจึงได้ตกลงให้มีการปรับเกลี่ยดินเป็นครั้งที่ 2 โดยมีนักเรียนโรงเรียนสมสนุกซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม 6 และมีรถไถได้นำรถไถมาปรับเกลี่ยดินให้อีกและได้จ้างไปเป็นเงิน 1,200 บาท
ส่วนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบพัสดุการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ 60 ก็เนื่องจากว่ามันเป็นเงินผ้าป่าสามัคคี ที่ผู้บริจาคโดยมีวัตถุประสงค์ อาจจะปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เช่น การปิดประกาศ การชำระค่าอากรแสตมป์ การวางเงินค้ำประกันสัญญา หรือมีการเสียภาษี ซึ่งในราคานี้เราจะไม่สามารถจ้างผู้รับเหมาได้ในราคานี้ แต่การก่อสร้างโรงจอดรถในครั้งนี้ ก็ไม่สามารถจะแล้วเสร็จได้ เนื่องจากเงินไม่พอซึ่งยังเหลือเทคอนกรีตอีกอยู่ 8 ช่อง คณะกรรมการจึงได้มีการหารือร่วมกันบริจาคอีกครั้งหนึ่ง โดยมีพระครูภาวนา ปัญญาสารบริจาค 1 ช่องเป็นเงิน 12,000 บาทและเจ้าอธิการอ่อนศรี เจ้าคณะตำบลโนนศิลาบริจาค อีก 1 ช่อง 12,000 บาท ส่วนดิฉันและคนอื่นๆ ก็ร่วมกันบริจาค 5,000 บาทบ้าง 2,000 บาทบ้าง แต่เงินก็ยังไม่พอสุดท้ายที่ฉันต้องหาเงินมาเพิ่มสำรองจ่ายอีก จำนวน 65,575 บาท จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์
ทางด้าน ดร.กษมา ป้องกัน ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบึงกาฬ เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยออกคำสั่งเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 คือชุดที่ 1. คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนนำเงินผ้าป่าสร้างโรงจอดรถ ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
2. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีประท้วงผู้อำนวยการโรงเรียนสมสนุกพิทยาคม ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ให้ลงพื้นที่ทั้งในลงเรียนสมสนุกพิทยาคม และตามพื้นที่ชุมชน เป็นคู่ขนานกันไป ให้ ผอ.โรงเรียนนำเอกสารที่มีอยู่ในมือมาชี้แจงให้ผู้ปกครองนักเรียนได้รับรู้ ถ้าหากมีการชี้แจงตามเอกสาร ซึ่งเป็นทั้งสัญญาจ้าง มติที่ประชุม และนำใบเสร็จต่างๆ มาให้ผู้ปกครองดูแล้วแต่วันแรก ปัญหาก็คงไม่ลุกลามบานปลายแบบนี่ แต่อย่างไรก็จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้ปกครองและผอ.โรงเรียน.