กรณีคนร้ายบุกใช้แก๊สเจาะเผาตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ที่ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์8 สี่แยกหน้าทัพ ริมถนนสาย401 นครศรีธรรมราช - สุราษฎร์ธานี หมู่ 15 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 01.00น.วันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยได้เงินเป็นธนบัตรแบงค์ 1,000 ไป จำนวน 397,000 บาท หลบหนีลอยนวลนั้น

ล่าสุดเมื่อค่ำวันนี้ (19 สิงหาคม ) กำลังตำรวจหลายชุด ประกอบด้วย พ.ต.อ.จารึก วรพฤทธิ์ทานนท์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภาค8,พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา,พ.ต.อ.ประภาส ศรีสังจร ผกก.สภ.ลานสกา,สนธิกำลังตำรวจกว่า 20 นาย บุกจับกุมนายอนุชา หรือ เป้ หนูน้อย อายุ 32 หรือ ฉายา ” เป้ วัดเท ” ที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณหลังวัดนางตรา ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนนายอนุชา หรือ เป้ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้แก๊สเจาะตัดตู้เอทีเอ็มจริง โดยทำคนเดียว ได้เงินสดเป็นธนบัตรเป็นแบงค์ 1,000 บาท จำนวน 397,000 บาท แล้วนำเงินทั้งหมดไปซุกซ่อนในตู้ลำโพงซากประตูรถยนต์เก่าๆที่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 5 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช กำลังตำรวจทั้งหมดเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านดังกล่าวพบเงินสดจำนวน 217,970 บาท ซ่อนในตู้ลำโพงซากประตูรถยนต์ดังกล่าวจริง จึงตรวจยึดพร้อมถังแก๊สจำนวน 1 ถัง และหัวเจาะแก๊ส 1 หัว ก่อนติดต่อตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจหาร่อยรอยนิ้วมือ และดีเอ็นเอของคนร้ายต่อไป

ส่วนสาเหตุก่อเหตุครั้งนี้นายอนุชา รับสารภาพว่า ลงมือเพียงคนเดียว โดยไปดูลาดเลามานานแล้วเห็นตู้เอทีเอ็มที่เกิดเหตุเป็นจุดอับปลอดผู้คนมองไม่เห็น จึงวางแผนลงมือเพียงคนเดียว เพื่อต้องการนำเงินไปใช้หนี้สินที่ตนติดหนี้สินอยู่จำนวนมาก โดยอดีตตนเคยมีอาชีพส่งไข่ไก่ตามร้านต่างๆในอำเภอท่าศาลา แต่มีหนี้สินมาก จึงต้อก่อเหตุดังกล่าว

ล่าสุดตำรวจตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู คาเมโอ้ สีเขียวทูโทน ทะเบียน 1847 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถของวัดแห่งหนึ่งใน อ.ท่าศาลา โดยตำรวจตามยึดรถยนต์คันดังกล่าวที่จอดอยู่วัดเราะ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา มาตรวจสอบหาลายนิ้วมือและหลักฐานต่าง ๆ ต่อไป เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า นายอนุชา หรือ เป้ ผู้ต้องหา มักจะชอบยืมรถของวัดไปขับเป็นประจำ กระทั่งไปใช้ก่อเหตุเจาะตู้เอทีเอ็มดังกล่าว