"รัฐบาล" ประกาศ! Smart City เมืองอัจฉริยะแล้ว 36 พื้นที่ 25 จังหวัด วางแผนตั้งเป้าเพิ่มอีก 15 เมือง
21 ส.ค. 2566, 09:28
วันนี้ (21 สิงหาคม 2566) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพเมืองต่าง ๆ ของประเทศไทย ให้เข้าสู่การเป็นเมือง Smart City หรือเมืองอัจฉริยะ ซึ่ง กรกฎาคม 2566 นี้ รัฐบาลทำสำเร็จประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะแล้ว 36 เมือง ใน 25 จังหวัด เชื่อมั่นภายในปี 2566 พัฒนาเมืองอัจฉริยะเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 15 เมือง ผ่านการส่งเสริมการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน คาดว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนได้มากกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการขนส่ง การใช้พลังงาน หรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายด้าน Smart City อย่างต่อเนื่อง ตามหลักการพัฒนา 5 เสาหลัก ได้แก่
1) พัฒนาเมืองอัจฉริยะต้นแบบ มีเป้าหมายในการเลือกเมืองที่มีศักยภาพ สำหรับการดำเนินงานนำร่อง
2) ปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
3) สร้างกลไกบริหารจัดการในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะไปสู่ภาคปฏิบัติ
4) ผลักดันเมืองอัจฉริยะด้วยการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม
5) ส่งเสริมการจัดเก็บข้อมูล การเชื่อมโยงและการใช้งานข้อมูล
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) รวมถึงภาครัฐและเอกชนหลายส่วน จะร่วมกันจัดงาน “Thailand Smart City Expo 2023” ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อส่งเสริมการบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจากทุกภาคส่วน โดยแบ่งหมวดหมู่เทคโนโลยีออกเป็น 7 ด้าน ได้แก่ Smart Telecom, Smart Energy, Smart Living, Smart Industry & Retail, Smart Mobility, Smart Environment และ Smart Healthcare ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากบริษัทชั้นนำกว่า 300 บริษัท เป็นประโยชน์ต่อดำเนินโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาโดยตลอด สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ โดยสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งกระตุ้นการแข่งขัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างแรงจูงใจการลงทุน พัฒนาพื้นที่อย่างมั่นคง และยั่งยืน” นางสาวรัชดาฯ กล่าว